ความทรงจำหลากหลาย ของคนหลังกล้อง

ความทรงจำหลากหลาย ของคนหลังกล้อง

ตอนเป็นเด็กถ้าใครถามว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร บ่อยครั้งที่ยืนยันคำตอบเดิม ๆ ว่าตำรวจลับ อาจจะเพราะมีน้าชาย ทำงานเป็นตำรวจลับ เห็นแล้วชอบเลยฝังใจก็ได้ แถมเมื่อคุณพ่อไปอบรมด้านโทรคมนาคมที่่ญี่่ปุ่นในยุค พ.ศ. 2500 แล้วซื้อกล้องสำหรับสายลับมาฝาก ยิ่งสนุกมากขึ้น กล้องตัวนั้นเป็น MINOX ขนาดจิ๋วขนาดครึ่งฝ่ามือ ซึ่งถือว่า จิ๋วมากในตอนนั้นและมีแต่ MINOX ที่ทำกล้องเล็กแบบนี้

เมื่อโตขึ้นความรู้สึกเหล่านี้ก็ยังมีอยู่ แต่สำหรับเรื่องกล้องเริ่มมี กล้องแบบต่าง ๆ มากขึ้น และชื่นชอบการถ่ายรูปมาก แต่เป็นการ ถ่ายตามใจชอบ ตาชอบ เห็นอะไรสวยก็ถ่ายหมด ใช้ฟิลม์ม้วน ทั้งชนิด 12 และ 24 รูป ตอนไปอยู่เยอรมัน คนที่นั่นชอบถ่ายเป็น ฟิลม์สไลด์ ใส่เม้าท์ เราก็พลอยถ่ายเป็นสไลด์กันแยะแยะ เวลาจะดูก็จับใส่เครื่องฉายสไลด์ ฉายขึ้นจอหรือฝาผนังดูกัน แต่ข้อเสียคือ ไม่ค่อยได้้อัดเป็นรูปภาพไว้ จนมาถึงยุคดิจิตอลไม่ต้องใช้ฟิลม์ แต่ใส่เป็นเมมโมรี่การ์ดแทน ตัวเองก็ยังใจแข็งไม่ยอมลองใช้อยู่นาน ยังคงยืนหยัดเหนียวแน่กับ ฟิลม์ม้วน ซึ่งตอนนั้นไปอยู่ที่่ชิลีแล้ว แต่อยู่ ๆ มาทนความรู้สึกอยาก ลองไม่ไหว ก็เลยเริ่ม ใช้กล้องดิจิตอลเป็นครั้งแรก เมื่อเรามีโอกาสได้ ไปเยือนเมืองชายแดนเมนโดซ่า ชายแดนของชิลีและอาร์เจนตินา ในช่วงวันหยุดยาว  

เมื่อได้ลองถ่ายภาพแบบดิจิตอล โดยใส่เมมโมรี่การ์ดแทนฟิลม์ ขนาด 8 GB ทีนี้ก็เริ่มติดใจ เพราะถ่ายได้จำนวนมาก ไม่ต้องคอย เปลี่ยนฟิลม์ จำได้ว่าเส้นทางขากลับจากเมนโดซ่ามายังซันติอาโก ตัวเองนั่งริมหน้าต่าง จากนั้นก็กดชัตเตอร์ไปเรื่อย ๆ ถ่ายวิวที่ปรากฏ อยู่ข้างทาง ซึ่งเป็นภูเขาสูงใหญ่น้อยสลับกัน เส้นทางที่่มองลงไป เห็นถนนวกไปวนมาสลับซับซ้อนสวยและน่าทึ่ง บางช่วงเป็นทุ่งโล่ง บางช่วงถนนสูงชัน มีหิมะปกคลุม รถวิ่งเข้าถ้ำเรียกว่าวิวสองทาง เป็นอย่างไร ชุติมาก็กดซัตเตอร์ตลอดไม่ยอมหลับยอมนอน ได้ภาพ มาหลายร้อยภาพอย่าง ไม่น่าเชื่อ และนั่นคือการเริ่มใจแตก หลงใหล ได้ปลื้มไปกับการถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลเป็นครั้งแรกของผู้เขียน ซึ่งเขียนสารคดีท่องเที่ยวอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยในการลงภาพประกอบ จึงต้องใช้ภาพที่่ตัวเองถ่ายเองปลอดภัยที่สุดจะได้ไม่มีปัญหาลิขสิทธิ์

คุณประภัสสรเคยแหย่บ่อย ๆ ว่าถ่ายรูปไว้มากมาย แต่เหมือนเก็บอยู่ในหลุมดำเพราะไม่ค่อยได้เอา ไปให้เขาดู เพราะต่างคนต่างมีคอมพิวเตอร์คนละ เครื่อง ภาพส่วนมากจึงอยู่ในเครื่องของเราซะเป็น ส่วนใหญ่่ แม้จะถ่ายภาพมามากมายแต่ก็ยังไม่ได้ นึกไปถึงการส่งประกวดภาพแต่อย่างได แค่คิดว่าถึง เวลาดี ๆ เหมาะ ๆ อาจจะมีโอกาสจัดนิทรรศการ ภาพสักครั้งหรือสองก็คงจะสนุกดี ความฝันเป็นจริง เมื่อมีนิทรรศการเกี่ยวกับนักเขียน ผลงานของผู้เขียน ทั้งชุติมา เสวิกุล และนามปากกา นิลุบล นวเรศ ได้ร่วมแสดงในงานนี้ด้วยหลายสิบภาพ มีภาพที่ได้ลงในหนังสือ นิตยสารต่าง ๆ นั้นมากมาย เวลาเห็นภาพสวย ๆ หรือภาพที่่ชนะการประกวด ต่าง ๆ ก็จะชื่นชมผู้เป็นเจ้าของภาพ เจ้าของรางวัล ว่าถ่ายกันออกมาสวยได้มากมายขนาดนี้ เขาทำยังไง กันหนอ ทั้งทึ่งและชื่นชมเสมอ ตามดููตามศึกษาเรื่อง การถ่ายภาพเรื่อยมา จนได้มาคลุกคลีกับอ.วรนันท์ ชัชวาลทิพากร และอ.ยรรยง โอฬาระชิน ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่าย) ที่เดินทางไปกับ คณะศิลปินแห่งชาติสัญจรกันมาแล้วหลายปี หลายสิบจัังหวััด หลายสิบสถานที่ และหลายครัง ซึ่งใน การเดินทางแต่ละครั้งก็เพื่่อไปเผยแพร่ ความรู้ตาม ความช่ำ ชองของศิลปิน แห่งชาติแต่ละท่าน แต่ละสาขาให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจ ทั่วไปนั่นเอง

สำหรับเรื่องภาพถ่ายนี่ นึกไปแล้วก็อดนึกถึงเมื่อ หก เจ็ด ปีก่อนที่เราทั้งคู่มีโอกาสได้รู้จักนักถ่ายภาพ ที่มีชื่อเสียงมาก ๆ อีกท่านหนึ่ง คือ คุณชัยโรจน์ มหาดำรงค์กุล แม้ท่านจะมีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่อง นาฬิกา แต่งานหลักอีกอย่างหนึ่งที่ท่านรักและ ทำมาเกือบตลอดชีวิตของท่านก็คือการถ่ายรูป ท่านเป็นช่างภาพมือฉมัง เป็นนายกสมาคมเกี่ยว กับภาพถ่ายหลายแห่ง ผลงานถูกซื้อไปประดับตาม อาคาร สำนักงานดัง ๆ มากมายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้หลังจากได้รู้จักท่านแล้ว ก็ยิ่งทึ่งเพราะโดยส่วนตัวของท่านเป็นช่างภาพที่มี ผลงานชนะการประกวดมากมาย ได้มีโอกาสสนทนา แลกเปลี่ยนความรู้กันหลายครั้ง ท่านจะเล่าที่มาของ ภาพถ่ายสวย ๆ มากมายที่เป็นผลงานของท่านให้ ฟังพร้อมกับบอกเคล็ดลับในการถ่ายด้วย แต่หลังจากพบกันในช่วงนั้นหลายครั้งแล้ว ต่อมาภารกิจ ของแต่ละคนมากขึ้น และของเราสองคนเองก็ต้อง เดินทางไปเก็บข้อมูลในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อ ที่คุณประภัสสรมาสร้างสรรค์เป็นนวนิยายชุด วรรณกรรมแห่งอาเซียน และ ชุติมา นำไปเขียนเป็น สารคดีเกี่ยวกับอาเซียนในนิตยสารต่าง ๆ เรื่อยมา

แต่แล้วเราก็ได้มีโอกาสได้พบกับท่านอีกครั้ง ความทรงจำเก่า ๆ กลับคืนมา ท่านยังเมตตาอธิบาย ให้ฟังว่าภาพแต่ละภาพนั้น กว่าจะได้มานั้นต้องใช้ เวลารอแสง รออะไรต่อมิอะไรอีกมากมายกว่าจะได้ ภาพสวย ๆ สุดยอดมาแต่ละภาพ ด้วยความเสียดาย ความรู้ที่มากมายมหาศาลและลึกซึ้ง ช่ำชองในเรื่่องการถ่ายภาพของท่าน ชมรมวรรณศิลป์ประภัสสร เสวิกุล จึงได้รับความกรุณาจากท่านที่รับจะมาเป็นวิทยากร บอกเล่าประสบการณ์การเป็นช่างภาพของท่าน ถ่ายทอดเทคนิคและวิธีการถ่ายภาพให้สวย และส่งเข้าประกวดกันได้ และยังสามารถนำความรู้เรื่่องการถ่ายภาพไปต่อยอดเป็นอาชีพที่สร้างราย ได้ให้้กับตัวเองได้อีกด้วย ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ จะจัด อบรมให้กับนักเรียน สองสามแห่ง เช่นที่ รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการยานนาเวศ เป็นต้้น และเหล่านี้คือความหลังของการเป็นคนหลังกล้องที่ผุดขี้นมามากมาย จึงขอนำภาพและประวัติศาสตร์ของความทรงจำต่าง ๆ มาให้คุณ ๆ ได้สัมผัสกันในฉบับนี้ค่ะ

ความทรงจำหลากหลาย ของคนหลังกล้อง