TELEx TELEXs : มากกว่าศิลปินเพลงเหงา คือการเป็นเพื่อนกับคนฟัง

TELEx TELEXs : มากกว่าศิลปินเพลงเหงา คือการเป็นเพื่อนกับคนฟัง

จากจุดเริ่มต้นของกลุ่มเพื่อนที่อยากเล่นดนตรีสนุก ๆ สู่การเติบโตเข้าปีที่ 6 ในฐานะ TELEx TELEXs ศิลปินกลุ่มที่มาพร้อมกับสีสันอันแตกต่าง สะท้อนตัวตนผ่านผลงานเพลงเหงาอย่างมีสไตล์ อาทิ Labelle, ซ่อน, เอายังไง?, หรือฉันเองที่ขังเธอไว้ในความทรงจำ, ยังจำได้ไหม และอีกมายมาย ซึ่งผลงานเหล่านี้สามารถสื่อสารความรู้สึกเข้าถึงคนฟังได้อย่างเข้าอกเข้าใจ ก่อเกิดเป็นมิตรภาพระหว่างกันและกัน เปรียบดังเพื่อนที่เข้าใจความรู้สึกของเพื่อนไปโดยปริยาย

“เรามองว่า TELEx TELEXs เหมือนเป็นคนที่เข้าใจคนที่ฟังเพลงของเราว่าเขากำลังเผชิญอะไรอยู่ เข้าใจว่าเขากำลังมีความรู้สึกแบบไหน หรืออาจจะเป็นเพื่อนที่แบบเห้ยไม่เป็นไรเข้าใจนะ อยู่ด้วยกันตอนเหงา ถึงแม้ว่าอาจจะเหงาด้วยกัน” ออม TELEx TELEXs

 

ก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นเพื่อนกับเหล่าคนฟัง ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว จากจุดเริ่มต้นของสองหนุ่ม ปิ้ว กษิเดช ฤทธิ์งาม และ กร พากร พานอ่อง ที่ยังอยากเล่นดนตรีสนุก ๆ ด้วยกันหลังจากวงของพวกเขาเพิ่งยุบตัว เพื่อนทั้งสองจึงเริ่มต้นทำผลงานเพลงแรก “Bad Old Day” และหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ชักชวน ออม ศรรัตน์ ลิมปะนพรัตน์ และ นาว คิรากร อิงควราภรณ์กุล เข้ามาร่วมวงในเพลงที่สอง “Labelle” ซึ่งผลตอบรับที่ได้จากสองเพลงนี้ก็ทำให้ TELEx TELEXs เริ่มเป็นที่รู้จัก เริ่มมีฐานแฟนเพลงที่ค่อย ๆ เหนี่ยวแน่น เก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างในฐานะศิลปินอิสระอย่างต่อเนื่องด้วยสีสันทางดนตรีที่ไม่เหมือนใคร และได้มีโอกาสร่วมเป็นหนึ่งในศิลปินสังกัด Wayfer Records ภายใต้การดูแลของ Warner Music Thailand ในเวลาต่อมา

“ผลงานของ TELEx TELEXs ที่ผ่านมามีทั้งหมด 2 อัลบั้ม กับ 2 EP เริ่มต้นที่ EP แรก ‘Melt Your Popsicle!’, อัลบั้มแรก ‘Enough for Loneliness and Internet Today’, EP ที่สอง ‘Yes! I’m 25 and I’m Single’ และอัลบั้มที่สองเพิ่งปล่อยไปเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ‘When You Have Nothing To Do Just Go To Sleep’ รวมระยะเวลาที่ก่อตั้งวงมาตอนนี้ก็ 6 ปีแล้วครับ” ปิ้ว TELEx TELEXs

ปัจจุบัน สมาชิกของ TELEx TELEXs ประกอบด้วย ออม ศรรัตน์ ลิมปะนพรัตน์ (ร้องนำ), ปิ้ว กษิเดช ฤทธิ์งาม (ซินธิไซเซอร์), และ นาว คิรากร อิงควราภรณ์กุล (กีต้าร์และคีย์บอร์ด)

 

พูดถึงอัลบั้ม When You Have Nothing To Do Just Go To Sleep

ออม : สำหรับคอนเซ็ปต์อัลบั้ม When You Have Nothing To Do Just Go To Sleep แปลตรง ๆ คือ ถ้าไม่มีอะไรทำก็ไปนอนเถอะ แต่ว่าจริง ๆ แล้วเวลาเราไปนอนมันไม่ได้นอนจริง ๆ ก่อนที่เราจะหลับมันเป็นห้วงเวลาที่เรายังคงคิดอะไรอยู่ บางทีการที่เราบอกให้ตัวเองไปนอนคือมันไม่มีอะไรทำจริง ๆ หรือเพราะมันไม่อยากทำอะไรกันแน่ สิ่งเหล่านี้จะสื่อผ่านพวกอาร์ทไดเรกชั่นต่าง ๆ ที่อยู่ในอัลบั้มที่เกี่ยวกับห้องนอน คือห้องนอนมันอาจจะไม่ใช่ห้องที่เราใช้นอนอย่างเดียว มันอาจจะเป็นห้องที่เราใช้ความคิดส่วนใหญ่ของเราใช้ชีวิตเพื่อคิดอะไรสักอย่างก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องเพลงเป็นไงปิ้ว

ปิ้ว : เพลงในอัลบั้มนี้จะมีความหลากหลายมากขึ้น มีทั้งซินฯ มีกีต้าร์แบรนด์และอะคูสติก มีความเป็นร็อกเป็นเฮ้าส์มิวสิค มีอะไรหลายอย่างรวมอยู่ตั้งแต่ผมทำเพลงมาเลยครับ อยากให้ทุกคนได้ติดตามฟัง ลองฟังไปสักรอบนึง ตั้งแต่เพลงแรกถึงเพลงสุดท้ายก็จะพบว่ามันเป็นเรื่องราวเดียวกัน ฟังต่อกันแล้วจะรู้สึกอินมากกว่าเดิม มันเหมือนทุกเพลงเป็นซาวด์แทร็กของหนังเรื่องนึงเลย

ออม : คือเรารู้สึกว่าอัลบั้มนี้มันทำให้คนได้เห็น TELEx TELEXs ในมุมที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องอกหัก แต่ยังมีห้วงเวลาเล็ก ๆ จากเรื่องราวของครอบครัวหรืออะไรก็ตามแต่ เข้ามาเป็นจุดเริ่มต้นของเพลง สอดแทรกผ่านเนื้อเพลง มันเหมือนกับว่าวงเติบโตขึ้นผ่านการเดินทางต่าง ๆ ก็เลยอยากให้คนฟังลองไปฟังเพลงเรียงต่อกันทั้งอัลบั้ม

ปิ้ว : เรื่องผลตอบรับ แฟน ๆ เขาก็รู้สึกชอบนะครับ คือดนตรีพวกเราอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่เขาก็รู้สึกว่าเรายังเป็น TELEX เหมือนเดิม แฟน ๆ เขาก็ยังเหนียวแน่นอยู่

บอกเล่าความรู้สึกหลังจากที่สื่อดนตรีชื่อดังฝั่งอังกฤษอย่าง NME จัดให้อัลบั้มที่สองของวงรวมอยู่ในลิสต์ The 10 best Southeast Asian albums and EPs of 2021

ออม : รู้สึกดีใจนะคะ เราปล่อยกันไปสักพักนึงแล้ว ประกอบกับช่วงนี้เนื่องด้วยสถานการณ์หลาย ๆ อย่างก็ไม่ได้คาดหวังว่าอัลบั้มจะมีคนเห็น แต่พอมันมีข่าวออกมาก็เลยดีใจมาก ๆ ตื่นเต้น

ปิ้ว : สำหรับผมก็รู้สึกว่าสิ่งที่พวกเราทำกันมาเมื่อมันถูกปล่อยออกไปแล้ว มีคนมองเห็น ได้รับผลตอบรับที่ดี ก็รู้สึกดี เป็นพลังให้เรายังคงทำในสิ่งที่เราเชื่อ ทำในสิ่งที่เราชอบกันอยู่ รู้สึกดีใจครับ

นาว : ผมก็ดีใจครับ อย่างที่ปิ้วบอกเลย ทำเพลงออกมาแล้วมันเห็นผล NME ก็เป็นสื่อที่ผมอ่านมานานแล้ว ชอบอยู่แล้ว ตื่นเต้นครับ

หลายคนชอบบอกว่าเพลงของ TELEx TELEXs เป็นเพลงของคนเหงา แล้วสมาชิกล่ะ คิดว่าพวกเราเป็นคนเหงาไหม

ปิ้วผมว่ามันก็เหงา แต่เป็นเหงาแบบเท่ ๆ เหงาแบบมีสไตล์

ทุกคน : ฮาฮา

ออม : เราว่าคำว่าเหงามันอาจจะพูดยากนิดนึง มันคือสิ่งที่ทุกคนรู้สึกในแต่ละวันอยู่แล้ว เรามองว่า TELEx TELEXs เป็นคนเหงาที่ยังสามารถมีกิจกรรมต่าง ๆ ทำได้โดยไม่ใช่การจมอยู่กับที่ เนื้อหาเพลงอาจจะเหงาจริง ๆ แหละ แต่ว่าตัวดนตรีหรือแบ็คกราวด์มิวสิกมันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเหงาขนาดนั้น ส่วนใหญ่แฟน ๆ เขาก็จะมองเหมือนเราเป็นเพื่อนเขามากกว่า เพื่อนที่เข้าใจในสิ่งที่เขาเหงา อาจจะเป็นคนที่ประสบพบเจออะไรที่คล้าย ๆ กัน เป็นคนที่เข้าใจในสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ ประมาณนี้ค่ะ

นาว : เราไม่ใช่วงคนเหงาขนาดนั้นครับ เรามีเพื่อนเยอะ มีแฟนเพลงเยอะ เท่านี้ก็ไม่เหงาแล้วครับโผมมม

ทุกคน : ฮาฮา

คิดว่าสีสันและคาแรคเตอร์ของ TELEx TELEXs เป็นประมาณไหน

ออม : สีสันของวงหรอ อย่างที่บอกเลย เรามองว่า TELEx TELEXs เหมือนเป็นคนที่เข้าใจคนที่ฟังเพลงของเราว่าเขากำลังเผชิญอะไรอยู่ เข้าใจว่าเขากำลังมีความรู้สึกแบบไหน หรืออาจจะเป็นเพื่อนที่แบบ เห้ยไม่เป็นไรเข้าใจนะ อยู่ด้วยกันตอนเหงา ถึงแม้ว่าอาจจะเหงาด้วยกัน ความเหงาเป็นขั้วบวกขั้วลบอะไรแบบนั้นค่ะ มันก็จะอยู่ด้วยกันแล้วหายเหงาแบบที่นาวบอก เราว่าคาแรคเตอร์วงประมาณนี้ เป็นเพื่อนคนค่ะ

ปิ้วผมไม่รู้ว่าสีสันของพวกเรามันคือสีอะไรเหมือนกัน แต่ว่ามันเป็นสีที่ในประเทศนี้ยังไม่ค่อยมี รู้สึกว่ามันเป็นจุดเด่นของเราครับ

6 ปีที่ผ่านมาในฐานะศิลปิน คิดว่า TELEx TELEXs เติบโตขึ้นมากน้อยแค่ไหน

ออม : สำหรับเรา พวกเราเติบโตผ่านการใช้ชีวิตร่วมกัน รวมถึงวิกฤตหลาย ๆ อย่างในช่วงนี้ด้วยก็ต้องปรับตัว เราว่าเติบโตขึ้นเยอะ

นาว : น่าจะเท่ขึ้นครับ

ทุกคน : ฮาฮา

ปิ้วการเติบโตทำให้เรารู้สึกแบบว่าต้องมีการวางแผน มีการตั้งเป้าว่าจะทำอะไร มีจุดหมายที่จะต้องไปให้ถึง ถ้ามันไม่ถึงก็จะต้องหาวิธีทำให้มันถึง แล้วการได้รู้จักคนใหม่ ๆ คนที่สามารถช่วยเหลือเราได้ พึ่งพาอาศัยกัน เป็นคอนเนคชั่นที่ดี มันทำให้เราเติบโตได้อย่างถูกทาง เอาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีคนพาเราไปให้ถึงจุดนั้นได้ ประมาณนี้ครับ

นาว : 6 ปีที่ผ่านก็น่าจะเติบโตในเรื่องประสบการณ์ส่วนใหญ่ เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ มากขึ้น และอย่างที่ปิ้วบอก การได้เจอคนนู้นคนนี้ทำให้เรามีคอนเนคชั่นที่เพิ่มขึ้นด้วย เป็นเรื่องที่ดีครับ

บอกเล่าโมเมนต์ที่มองว่า เพื่อนของเราเป็นศิลปินที่โคตรเท่เลย

ออม : สำหรับเรา เรารู้สึกว่าทุกคนเท่อยู่แล้ว คือทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง อยู่ในจุดที่ต้องทำมันให้ดีที่สุด ซึ่งเรารู้สึกชื่นชมในตรงนั้นมาก ๆ อย่างการทำงานของปิ้วเอง หรือไลน์กีต้าร์ของนาว เรารู้สึกว่าสิ่งนี้มันเติมเต็มความเป็นวง ไอสิ่งนี้แหละที่ทำให้รู้สึกว่าเพื่อนเราเท่จัง เก่งจัง การมาเป็น TELEx TELEXs ในทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่เราคนเดียว ปิ้วคนเดียว หรือนาวคนเดียว แต่มันคือทุกคนรวมความเป็นตัวเองเอาไว้ในวงนี้ มันคือความเป็นวงในความรู้สึกเรา

ปิ้วเหมือนประมาณว่าทุกคนจัดการในสิ่งที่ตัวเองทำได้ดีอยู่แล้ว อย่างออมที่เพอฟอร์แมนซ์ก็พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ นาวเองก็มีสไตล์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าทุกคนพัฒนาขึ้นและยังคงทำแบบนี้ต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี

นาว : ทุกคนเท่อยู่แล้วครับ แต่ว่าอยู่มา 6 ปีก็เลยเท่มากขึ้น (ระดับความเท่เพิ่มขึ้นไปตามอายุวงใช่หรือเปล่าครับ) ใช่ครับ ปีหน้าก็เท่กว่านี้ครับ

ทุกคน : ฮาฮา

นาว : ออมเท่ครับ บนเวทีคุมคนดูอยู่ อย่างปิ้วก็เท่อยู่แล้วครับ

ทุกคน : ฮาฮาฮา

6 ปีที่ผ่านมา มีเป้าหมายไหนบ้างที่ทำได้แล้ว แล้วอะไรคือเป้าหมายในอนาคตที่วงมองว่าเป็นสิ่งท้าทาย

ปิ้วอันแรกที่เห็นง่าย ๆ เลยคือ โกลแรกที่อยากมีอัลบั้มก็มีแล้ว อยากไปเล่นที่ต่างประเทศก็ได้ไปแล้ว มันก็จะมีโกลขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ หลังจากเราทลายโกลเดิมสำเร็จ

ออม : เราว่า 6 ปีเนีย มันเหมือนเราเล่นเกม มันก็จะมีด่านต่าง ๆ พอเราผ่านด่านพวกนั้นมาแล้ว ทีนี้มันก็จะมีด่านใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมา เหมือนเราต้องตั้งโกลว่าถ้าจะไปจุดนั้นต้องทำอะไร อยากมีอัลบั้มก็มีแล้ว อยากมีแฟนเพลงก็มีแล้ว อยากไปต่างประเทศก็ได้ไปแล้ว ถ้าถามเรา เราก็คงอยากให้ TELEx TELEXs มีคนรู้จักมากขึ้น รวมถึงคนที่อยู่กับเราตั้งแต่วันแรกก็อยากให้อยู่ด้วยกัน อยากได้ครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณนี้

นาว : 6 ปีก็ไม่ได้คิดว่าแบบมันจะสำเร็จได้ขนาดนี้ อย่างที่ปิ้วกับออมบอก สำเร็จตรงนี้แล้วก็ต้องไปต่อ ตั้งเป้าหมายไปเรื่อย ๆ

ออม : ส่วนเรื่องที่ท้าทาย สถานการณ์ตอนนี้สำหรับเรามันท้าทายทุกคนมาก ภายใต้ภาวะแบบจะทำยังไงให้ในช่วงนี้ทุกคนยังจดจำเราได้อยู่ เราว่ามันคือความท้าทายของวงการดนตรีเลยนะ ไม่ใช่แค่วงเราหรือใคร ทุกคนต้องมีกลยุทธของตัวเองในการที่จะสร้างฐานแฟนเพลงใหม่มากขึ้น แล้วก็ยังรักษาฐานแฟนเดิมเอาไว้ได้

ปิ้วผมรู้สึกว่าเพลงของพวกเรามันต้องเล่นสดด้วยคนดูถึงจะสัมผัสอะไรบางอย่างได้ พอไม่ได้เล่นก็เลยรู้สึกว่าช่วงเวลาแบบนั้นมันหายไป ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเอาเพลงในอัลบั้มไปเล่นเพราะเรายังไม่ได้เอาไปเล่นเลย อยากรู้ว่าคนดูจะสนุกไหมกับสิ่งที่เราคาดหวังไว้ แล้วก็อยากมีคอนเสิร์ตใหญ่ครับ แต่ว่าต้องรอให้สถานการณ์มันดีขึ้นกว่านี้ก่อน อยากเจอแฟน ๆ อยากเล่นดนตรี อยากมีชีวิตเหมือนเดิมสักที เพราะเราไม่ได้เล่นดนตรีมา 7-8 เดือนแล้ว เราเป็นนักดนตรีอาชีพ เป็นศิลปิน การทำเพลงอยู่ในห้องโดยไม่ได้ออกไปเจอผู้คนเลย ไม่ได้ไปเจอประสบการณ์ที่เราจะสามารถนำมันมาสร้างสรรค์ผลงานได้เลย ก็เลยรู้สึกเซ็ง ๆ ครับ

นาว : พวกเราต้องรอให้สถานการณ์ดีขึ้น อยากมีคอนเสิร์ตใหญ่อย่างที่ปิ้วที่ออมบอก อยากให้มีคนฟังเพลงเพิ่มขึ้น แล้วก็อยากมีงานเล่นทุกวันเลยครับ

 

ภายใต้สถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความหดหู่ TELEx TELEXs มีวิธีเชียร์อัพตัวเองอย่างไรบ้าง

ปิ้วผมก็ดูการ์ตูนครับ วันไหนที่ลืมว่าตัวเองเล่นมือถือเยอะเกินไปแล้วก็จะต้องบอกตัวเองให้พอ แล้วก็หาอะไรที่มันบันเทิงใจดู เช่น คลิปตกปลา คลิปทำอะไรอาหาร ซึ่งช่วยผมได้เหมือนกันครับ ดูอะไรที่มันผ่อนคลาย

ออม : เราก็คล้าย ๆ ของปิ้วนะ มีปลูกต้นไม้ วาดรูป หาอะไรทำที่แบบอาจจะเคยทำได้แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองยังทำได้หรือเปล่า ก็เริ่มลองทำสิ่งนั้น

นาว : ผมก็หาอะไรทำ ตื่นมาก็ทำข้าวกินก่อนครับ ให้หัวมันโล่ง อันนี้เรื่องจริง แล้วออกกำลังกาย ช่วงนี้ออกกำลังกาย นอนเร็ว ตื่นเช้า พยายามทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเล่นเกมก็ช่วยได้ครับ

บอกเล่าความรู้สึกที่ได้ขึ้นโชว์ในเทศกาลดนตรี "เปิดหมวกเฟส"

ปิ้วผมคอยดูฟีดแบคแฟน ๆ อย่างใน Youtube คอมเมนต์พิมพ์กันเยอะมากว่า TELEx TELEXs มาแล้ว เด้งขึ้นเร็วมาก อย่างในไลน์สแควร์ของวง แฟน ๆ เขาก็ถามกันเยอะมากว่าวงมากี่โมง นี่นั่งรอตั้งแต่ 6 โมงแล้วนะ พอวงเรามา พวกเขาช่วยพิมพ์บอกกัน รู้สึกดีใจมากที่เห็นว่าพวกเขายังรอคอยเราใช้ทุกช่องทางอยู่จริง ๆ เหมือนว่าพวกเขาช่วยเติมพลังให้เรา บอกว่ายังรอเรา เราต้องอย่ายอมแพ้กับความล้มเหลวอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้น

ออม : รู้สึกดีใจที่เห็นว่าทุกคนยังรอเราอยู่ รู้สึกว่าทุกคนยังอยากเจอเราอยู่ เหมือนที่เราเองก็อยากเจอทุกคนเลย ตื่นเต้นที่จะได้เจอทุกคนอะไรแบบนี้ รู้สึกว่ามีพลังให้อยากทำอะไรต่อค่ะ

นาว : ผมก็ดีใจครับ ตื่นเต้น คนรอดูเยอะ ทักมาถามว่าเล่นกี่โมง ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็รอดูอยู่เหมือนทุกคนว่าวงเล่นกี่โมง เห็นคอมเมนต์คนก็ชอบ คนแท็กมาบอกชอบเพลง เห็นแล้วมันก็ดีใจครับผม

ถ้าสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายแล้ว แพลนต่อจากนี้ของ TELEx TELEXs นั้นมีอะไรบ้าง

ออม : เราว่าถ้าคลี่คลายแล้วก็อยากทำอะไรที่พวกเราคิดเอาไว้ว่าจะทำให้เร็วที่สุด เพราะเราก็อยากเจอทุก ๆ คนเหมืนกัน ถามว่าโอกาสมันมีแค่ไหนคือมันมีแน่ ๆ แต่ถามว่าเมื่อไหร่มากกว่า และเป็นคอนเซ็ปต์แบบไหนให้รอติดตามกันไป อย่าเพิ่งหายไปไหนนะจ๊ะ

ปิ้วมีแน่นอนครับ อดใจรอนะครับ

ออม : ตอนนี้อาจจะยังตอบอะไรไม่ได้ เอาจริง ๆ คือพวกเรามีแพลนที่จะทำหลายสิ่งแต่ว่าด้วยสถานการณ์แบบนี้มันเลยทำให้เราต้องพักสิ่งนั้นไว้ก่อน ก็ยังไม่ได้เริ่มอะไรไปสักเท่าไหร่ แต่ถามว่ามีไหม มีแน่ค่ะ

ปิ้วแล้วก็เร็ว ๆ นี้อาจจะมีเอ็มวีเพลง “ยังจำได้ไหม” ต้องรอดูว่าสามารถถ่ายทำได้เมื่อไหร่ รอให้สถานการณ์มันดีขึ้น แล้วเราจะรีบทำรีบปล่อยออกมาเลยครับผม

ช่วงส่งท้าย ฝากถึงแฟนเพลง TELEx TELEXs

ออม : อยากขอบคุณทุกคนค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เพราะว่ารู้สึกว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เราไม่เคยเสียใครไป แล้วเราก็ดีใจมาก ๆ ที่ทุกคนยังอยู่กับเรา เราไม่รู้เหมือนกันว่าจะสู้กันแบบนี้ให้ได้มากที่สุดยังไง แต่ว่าพวกเราก็พยายามสู้เพื่อคุณเหมือนกัน ก็อยากให้สู้ ๆ ไปด้วยกัน แล้วก็จะได้กลับมาเจอกันใหม่ครับ

ปิ้วผมก็อยากขอวัคซีน mRNA ให้ประชาชนครับโผมม

ทุกคน : ฮาฮา

นาว : ขอบคุณทุกคนครับ ทุกคนน่ารักมากเลยครับผม สู้ๆ ไปด้วยกันครับ ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน แต่ว่าเดี๋ยวก็ต้องดีขึ้นสักวันครับ

Follow Them
Facebook : TELEx TELEXs
Instagram : telex_telexs
Youtube : TELEx TELEXs
Youtube : Wayfer Records

Photo : Warner Music Thailand

TELEx TELEXs : When You Have Nothing To Do, Just Listen To The Music มากกว่าศิลปินเพลงเหงา คือการเป็นเพื่อนกับคนฟัง