ฝ้าย BOOM BOOM CASH : Never Stop Fighting For My Dreams บอกเล่าตัวตนด้วยผลงาน

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : Never Stop Fighting For My Dreams บอกเล่าตัวตนด้วยผลงาน

 

การไม่หยุดนิ่งเพื่อทำในสิ่งที่เรารักมักนำพาชีวิตให้ไปคว้าทุกโอกาสที่สำคัญเสมอ ด้วยเหตุนี้ “ฝ้าย สัจจา พันพุก” หญิงสาวผู้ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ ความรักที่มีต่อเสียงเพลงคือผลักดันที่ทำให้เธอไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาทักษะและความสามารถของตน เริ่มจากการเป็นนักร้อง เป็นมือกลอง เป็น DJ ในชื่อ Faileo ออกทัวร์คอนเสิร์ตรอบเอเชีย ได้รับการยอมรับในเรื่องความสามารถ จนคว้าโอกาสเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในยุคใหม่ของ BOOM BOOM CASH ในฐานะนักร้องนำคนใหม่ของวงได้สำเร็จ และนี่คือเรื่องราวที่สะท้อนถึงตัวตนและทัศนคติของ “ฝ้าย BOOM BOOM CASH”

จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจ

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : จริง ๆ แล้วฝ้ายมีความสนใจเรื่องดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ สนใจการประกวด สนใจที่จะฝึกฝน สนใจที่จะเข้าร่วมกิจกรรมทุกอย่างที่เกี่ยวกับการร้องเพลงหรือดนตรี เพราะว่าเราเป็นคนรักเสียงเพลง ชอบฟังดนตรีทุกแนวทุกประเภท ชอบลูกทุ่ง ชอบเพื่อชีวิต ชอบดนตรีอะไรก็ได้ที่มันไพเราะ ที่มีความหมาย หรือมีคุณค่า เราไม่ได้แบ่งแยกว่าฉันชอบแนวไหนอะไรยังไง

ฝ้ายเข้ามาอยู่ในวงการดนตรีแบบจริงจังคือเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่ เราตัดสินใจที่จะมาทำงานเป็นนักร้องในวงดนตรีแบบเต็มตัว ทำเป็นอาชีพเลย พออยู่ในวงการนี้เราก็เริ่มมีเพื่อน มีคอนเนคชั่น ได้เป็น DJ ทำมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันก็ได้มาร่วมงานกับ BOOM BOOM CASH ค่ะ

ศิลปินที่เรามีเขาเป็นไอดอล คนที่ทำให้เราอยากทำงานในด้านดนตรีต่อไปคือน้าปู พงษ์สิทธิ์ คําภีร์ ค่ะ ครั้งแรกที่มีโอกาสได้ดูคอนเสิร์ตของน้าปูถือเป็นจุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจของฝ้าย ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยดูคอนเสิร์ตจริง ๆ จัง ๆ เป็นเรื่องเป็นราวมาก่อน เราไม่เคยรู้ถึงเอนเนอจี้หรือว่าความรู้สึกของการที่อยู่ในคอนเสิร์ต ซึ่งฝ้ายรู้สึกว่าเอนเนอจี้นั้นมันดีมาก เป็นพลังที่ดีมาก แรงบันดาลใจที่ได้รับจากการดูคอนเสิร์ตในครั้งนั้นทำให้เราอยากที่จะทำงานด้านดนตรีต่อมาเรื่อย ๆ เลยค่ะ

Also known as Faileo

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : ฝ้ายเริ่มเป็น DJ เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่เขาเป็น DJ และมีโอกาสได้เดินทางไปเล่นดนตรีที่ต่างประเทศ แล้วแนวเพลง EDM ที่เขาเล่นมันเป็นสิ่งใหม่ คือเราฟังเพลงไทยอยู่ในแวดวงเพลงไทย แต่ยังไม่เคยได้ไปสัมผัสอะไรที่เกี่ยวกับ EDM หรืออะไรที่เกี่ยวกับสากล ทีนี้พอเราได้มาเรียนรู้ ได้สัมผัสสิ่งเหล่านั้นกับเพื่อน ๆ ก็เลยรู้สึกว่าอยากลองเป็น DJ ดู เพราะว่ายังไงมันก็คือดนตรีอยู่ดี แล้วอีกอย่างเราเป็นคนชอบเดินทางด้วย ก็เลยมุ่งมั่นที่จะเป็น DJ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเองค่ะ

เปิดทัวร์รอบเอเชีย

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : คือในตอนนั้นแนว EDM มันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากที่ต่างประเทศ คนไทยยังไม่ได้อินกับ EDM ขนาดนั้นด้วย อีกอย่างก็คือเรามีเพื่อนต่างชาติเยอะ ด้วยคอนเนคชั่น ด้วยการซัพพอร์ตจากเพื่อน ๆ จากคนรอบตัวด้วย เราก็เลยได้มีโอกาสไปทำงานที่ มีโอกาสเปิดทัวร์ที่ต่างประเทศรอบ ๆ เอเชียค่ะ

ส่วนประสบการณ์ที่ได้รับจากการทัวร์รอบเอเชีย อย่างแรกคือเรื่องการปรับตัว การเข้าสังคม การได้เดินทางไปที่ใหม่ ๆ ทำให้เราได้เห็นสังคมใหม่ ได้เห็นวัฒนธรรมใหม่ ได้เห็นว่าประเทศอื่นเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร มันทำให้เราได้ความรู้ใหม่ ๆ ได้ปรับเปลี่ยนมุมมองและความคิดในการใช้ชีวิตของเราซึ่งส่งผลมาถึงปัจจุบันนี้ด้วย

The Drummer

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : นอกจากร้องเพลง เป็น DJ ฝ้ายมีความสามารถในการตีกลองด้วยค่ะ ฝ้ายรู้สึกว่าเสน่ห์ของเครื่องดนตรีประเภทนี้คือการที่เราได้โฟกัสอยู่กับมัน คือการตีกลองเราต้องมีสมาธิอยู่กับมันจริง ๆ แล้วอีกอย่างกลองเป็นเครื่องดนตรีสำหรับแบรนด์ สำหรับวง กลองถือเป็นเมนหลักของวงที่มีพาวเวอร์ นี่คือเสน่ห์อีกอย่างของมันค่ะ

New Front(wo)man

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ก่อนที่ฝ้ายจะได้ไปทัวร์ ฝ้ายก็ยังเล่นดนตรีอยู่ในกรุงเทพฯ แล้วทีนี้ก็มีเพื่อน ๆ ในกลุ่มคุยว่าเขารู้จักกับพี่แขก มือเบสวง BOOM BOOM CASH แล้วเหมือนกับว่าเขารู้ว่าวงกำลังมองหานักร้องหญิง เขาก็เลยแนะนำให้วงลองมาคุยกับเราดู หลังจากนั้นก็ได้คุยกันผ่านไลน์ ผ่านเฟซบุ๊ค คุยกันทางข้อความแต่ว่ายังไม่เคยเจอกันหรือคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวกับพี่ ๆ BOOM BOOM CASH จนกระทั่งฝ้ายต้องไปทัวร์ก็เลยไม่มีโอกาสได้มาเจอกัน เขาเองก็ไม่มีโอกาสได้มาดูเราเล่นสดด้วย เพราะว่าเขาอยากดูอยากรู้ว่าเรามีเอนเนอจี้อย่างไรบ้าง

หลังจากนั้นก็ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร เพราะฝ้ายทัวร์ประมาณ 4-5 เดือน จนกระทั่งเรากลับมา เขาถึงได้มาดูเราเล่นสดจริง ๆ แล้วก็มีการพูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวก่อนตกลงเข้าร่วมวงค่ะ

เรื่องนี้ BOOM BOOM CASH ถึงกับบ่นว่าทำไมเจอตัวยากกว่าศิลปินอีก ก่อนหน้านี้เขาก็จะมาดูเราหลายรอบแล้ว แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็มีเหตุให้คลาดเคลื่อนกันตลอด จนกระทั่งฝ้ายไปทัวร์มาแล้ว กลับมาแล้ว เขาก็ยังหาโอกาสไม่ได้อยู่ดี เขาก็แบบโอเค งั้นเดี๋ยวลองดูใหม่ นัดกันใหม่ จนในที่สุดก็ได้มาเจอกัน

Teamwork

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : ก่อนหน้านี้การทำงานในแบบ DJ เราทำงานคนเดียว คิดคนเดียว ไอเดียก็มาจากเราคนเดียว เวลาทำโชว์ก็ทำคนเดียว อันนั้นมันก็เป็นความสุขแบบหนึ่ง ซึ่งทุกวันนี้เรามาทำงานเป็นทีม มันต้องอาศัยความเห็นและการซัพพอร์ตระหว่างกันและกัน จริง ๆ ฝ้ายไม่ได้ปรับตัวอะไรมากนะ แค่เราเอาสิ่งที่เราเคยทำคนเดียวมาแชร์กับเพื่อน ๆ แล้วก็ช่วยกันซัพพอร์ต ฝ้ายว่าสิ่งนี้มันเป็นเรื่องดีสำหรับเรา มันเป็นความสุขคนละแบบ เรารู้สึกมีความสุขมากกว่าการทำงานคนเดียว การทำงานเป็นทีมมันสนุกกว่า งานเสร็จเร็วขึ้น แล้วชิ้นงานมันก็ไปได้ดีกว่าเดิมด้วย

จริง ๆ ทุกวันนี้ผ้ายก็ไม่ได้เป็นฝ่ายที่ปรับตัวคนเดียว เพื่อนในวงก็ปรับและยอมรับในสิ่งที่เราเป็น ยอมรับในความสามารถ ความคิด และไอเดียของเรา เรียกว่าต่างฝ่ายต่างปรับ ถามว่าปรับอย่างไร ส่วนใหญ่เราก็จะเอาสิ่งที่เรามีไปนำเสนอก่อน แล้วก็ค่อย ๆ มาปรับกันว่ามันสามารถเอาเข้าไปรวมกับไอเดียของคนอื่นได้อย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องดนตรีตอนนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาในเรื่องของการปรับแนวเพลง เพราะว่าแนวทางของวงค่อนข้างเปิดกว้าง มีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้ทุกคนมีโอกาสได้การแสดงในสิ่งที่ตัวเองมี ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปในเพลง

Friendship

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : อันดับแรกเลยถ้าจะให้พูดถึงคนในวง BOOM BOOM CASH ฝ้ายนึกถึงคำว่าไอดอลค่ะ เพราะว่าตอนนี้ทุกคนในวงกลายเป็นไอดอลของเราไปแล้วในเรื่องการทำงาน ภาพที่เราเห็นพวกเขาจากข้างนอกคือเป็นคนสนุกสาน ซึ่งเขาก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ แต่เมื่อพูดถึงการทำงานแล้วเขากลายเป็นคนที่ตั้งใจ เข้มข้นกับการทำงาน แล้วก็ใส่ใจกับงานมาก มีความเป็นมืออาชีพ มีหลักการทำงาน การทำงานเป็นทีมกับพวกเขามันก็เลย Push up เราไปในอัตโนมัติ มันทำให้เราตั้งใจและทุ่มเทในการทำงานไปกับพวกเขาด้วย

The New Era of BOOM BOOM CASH

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับ BOOM BOOM CASH อย่างแรกเลยฝ้ายคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของซาวด์ดนตรี คือมันเปลี่ยนอยู่แล้วเพราะว่าวงเปลี่ยนนักร้อง สิ่งที่เปลี่ยนต่อมาคือเรื่องภาพลักษณ์วง แล้วก็ในการทำอัลบั้มใหม่ของ  BOOM BOOM CASH ครั้งนี้จะมีความหลากหลายมากขึ้น เรามีกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น ได้ออกความเห็นร่วมกัน แล้วก็มีหลายสิ่งที่นอกเหนือจากเรื่องของดนตรี เช่น บางเพลงก็จะมีเรื่องของท่าเต้นเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่ง BOOM BOOM CASH จะได้ทำในสิ่งใหม่ ๆ ดูแปลกตาขึ้นกว่าเดิมค่ะ

New Label : High Cloud Entertainment

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : หลังจากเปิดตัวในฐานะศิลปินจาก High Cloud Entertainment ตอนนี้พวกเราปล่อย “สาธุ 2021” ออกมาให้ทุกคนได้ฟังกันเมื่อช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเพลงนี้ถูกทำดนตรีขึ้นมาใหม่ให้เป็นพวกเราในปัจจุบันมากขึ้น มีการใส่ไอเดียของแต่ละคนลงไป แล้วก็เป็นเสียงร้องของฝ้ายที่จะมีความลูกทุ่งนิด ๆ อยู่ในนั้น สิ่งที่พิเศษของมันคือการเป็นเพลงเดิมแต่ให้ความรู้สึกใหม่ในเรื่องของดนตรีค่ะ

ส่วนซิงเกิลแรกภายใต้ High Cloud เพลงใหม่ที่กำลังจะปล่อยออกมา หลายคนน่าจะได้ยินชื่อเพลงกันแล้วที่มีชื่อว่า “ฮาคูน่า มาทาท่า” เหตุผลที่เราใช้ชื่อนี้เพราะว่ามันแปลว่าการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องกังวล ตอนนี้ทุกคนต่างเจอเรื่องเครียดกันเยอะแยะมากมาย เราอยากทำเพลงที่เป็นบวก อยากให้ทุกคนได้สนุกไปกับเพลง อยากให้ทุกคนสามารถเต้นตามได้ ไม่เครียด แฮปปี้ แล้วอีกสิ่งหนึ่งที่พิเศษของเพลงนี้ที่ฝ้ายรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ คือนอกจากเรื่องของสกิลดนตรีแล้ว พี่แขก พี่โอเล่ แล้วก็พี่เอ้ เขามีสกิลด้านอื่น ๆ ด้วย ซึ่งเราขอเก็บสิ่งนี้ไว้เป็นเซอร์ไพรส์ในเอ็มวีค่ะ

เป้าหมายในอนาคตอันใกล้

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : เริ่มที่เป้าหมายของตัวฝ้ายก่อน คือเราอยากจะทำอัลบั้มนี้กับ BOOM BOOM CASH ซึ่งมันเป็นอัลบั้มแรกในชีวิตของฝ้าย อยากทำมันให้ดีที่สุด และทำงานเป็นทีมเวิร์กกับ BOOM BOOM CASH ให้ได้มากที่สุด ส่วนเป้าหมายในฐานะ BOOM BOOM CASH เชื่อว่าสมาชิกในวงก็คงรู้สึกคล้าย ๆ กันคืออยากที่จะทำเพลงที่มัน Live up ทุกคนในสถาณการณ์แบบนี้ให้ได้มากที่สุด ตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด แล้วก็ลึก ๆ แอบหวังว่าอยากทำให้วงก้าวไปสู่ระดับเอเชียหรือระดับสากลได้ค่ะ

เอกลักษณ์กับความเป็นศิลปิน

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : เรื่องเอกลักษณ์ของศิลปิน ถ้าพูดถึงในยุคสมัยนี้ฝ้ายมองว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นค่ะ ฝ้ายรู้สึกว่าคนสมันนี้ต้องการที่จะเห็นอะไรมากขึ้น คาดหวังมากขึ้นกับคำว่าศิลปินกับภาพลักษณ์มากขึ้น แต่ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่เรื่องแบบนี้มันต้องมาควบคู่กับตัวผลงานของตัวศิลปินด้วย

รสนิยมและการสร้างงาน

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : รสนิยมมีผลต่อการสร้างงานของศิลปินมากน้อยแต่ไหน คิดว่ามีผลค่ะ ฝ้ายเชื่อว่าศิลปินทุกคนมีรสนิยมของตัวเอง แล้วก็หลาย ๆ คนเอาตรงนี้ไปใส่ในงานหรืออาจจะไม่ได้เอามันไปใช้ในงานเลย มันขึ้นอยู่ที่การทำงานของแต่ละคนว่ามีการปรับจูนในเรื่องของงานกับรสนิยมอย่างไรบ้าง มีผลมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับศิลปินด้วยว่าเขาจะหยิบเอารสนิยมทำงานแบบไหน

บทส่งท้าย

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : ฝ้ายในฐานะตัวแทนจาก BOOM BOOM CASH อยากขอเป็นกำลังใจให้ทุกต่อสู้และฝ่าฟันสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ ให้มันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เราเข้าใจถึงความลำบากที่ทุกคนเผชิญอยู่ เพราะว่ามันมีผลกระทบต่อทุก ๆ คน รวมถึงตัวศิลปินเอง ทั้งเรื่องงานและเรื่องจิตใจ ไม่ใช่แค่คุณที่เจอเรื่องราวเหล่านี้ พวกเราเองหรือไม่ว่าใคร ๆ ต่างก็เจอเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน สู้ไปด้วยในด้วยหน้าที่ของเรา ด้วยสิ่งที่เราทำได้ ซึ่งในฐานะศิลปิน พวกเราจะผลิตผลงานดี ๆ ให้คนฟังได้มีความสุข คลายเครียด เอนจอยไปด้วยกัน อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ เพราะไม่ว่าเราจะมีวัคซีนที่ดีแค่ไหนแต่การดูแลสุขภาพก็ยังเป็นเรื่องสำคัญอยู่ ขอฝากทุกคนในเรื่องนี้ด้วยนะคะ ด้วยความเป็นห่วงของพวกเรา BOOM BOOM CASH จากค่าย High Cloud Entertainment ค่ะ

Follow Her & Them
Facebook : BOOM BOOM CASH
Instagram : faiiboomboomcash
Instagram : boomboomcash
Youtube : High Cloud Entertainment

Photo : High Cloud Entertainment

ฝ้าย BOOM BOOM CASH : Never Stop Fighting For My Dreams บอกเล่าตัวตนด้วยผลงาน