เบนซ์สตาร์แฟลกเปิดจองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์

เบนซ์สตาร์แฟลกเปิดจองรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์

คุณชยุส ยังพิชิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์แฟลก จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ กล่าวว่าสำหรับปี 2559 เปิดศักราชใหม่ เบนซ์ สตาร์แฟลกตอกย้ำความพร้อมความเป็นผู้นำของตลาด เปิดรับจองพร้อมส่งมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ PLUG-IN HYBRID ทั้ง C 350 e และ S 500 e พร้อมให้ออกรถใหม่ไปขับต้อนรับตรุษจีน รวมทั้งขอมอบแคมเปญตรุษจีนให้แก่ลูกค้ารถหรู แจกอั่งเปาสูงสุดมูลค่า 300,000 บาท พร้อมประกันภัย แก่ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น E-Class, M-Class และ GLE


เมอร์เซเดส-เบนซ์ PLUG-IN HYBRID

นอกจากนี้ยังได้สิทธิ์อั่งเปา 300,000 บาท พร้อมแต้มเพิ่ม 5 แสนแต้ม เมื่อชำระผ่านบัตรเครดิตกรุงเทพ รวมทั้งข้อเสนอสุดพิเศษอีกมากมายตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้ สำหรับลูกค้าที่นำรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์มาเข้ามารับบริการที่ศูนย์บริการหลังการขายมาตรฐานของสตาร์แฟลก ยังมีสิทธิ์ได้รับ Gift Voucher ส่วนลดในการเข้ามารับบริการตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มทั้งฝ่ายขายและฝ่ายบริการหลังการขายทีเดียว

โปรโมรชั่นฉลองเทศกาลตรุษจีน เบนซ์สตาร์แฟลกแจกอั่งเปา x 2 เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 29 ก.พ. นี้เมื่อครอบครองรถยนต์-เมอร์เซเดสเบนซ์รุ่น E200 Edition E, E300 BlueTEC HYBRID Exclusive, ML 250, GLE และอีกหลายรุ่น

-  อั่งเปาส่วนลดสูงสุด 300,000 (สามแสนบาท) พร้อมประกันภัยชั้น 1

-  ลูกค้าผู้ถือบัตรอินฟินิท และบัตรผู้นำแพลทินัม ของธนาคารกรุงเทพ 

อั่งเปาส่วนลดสูง300,000 (สามแสนบาท) พร้อมรับคะแนนสะสม 500,000 (ห้าแสน) แต้ม เมื่อใช้บริการศูนย์บริการหลังการขาย

- ทุก 10,000 บาท รับฟรีไดอารีเมอร์เซเดส-เบนซ์

- ทุก 30,000 บาท รับฟรีกระเป๋าเมอร์เซเดส-เบนซ์

นอกจากนี้ลูกค้าเบนซ์สตาร์แฟลกนำ voucher มาเพื่อรับส่วนลดเพิ่ม 1,500 เมื่อเข้ารับบริการหรือซื้อสินค้าที่ศูนย์บริการหลังการขาย พิเศษ ! นัดหมายเข้ารับบริการล่วงหน้ารับบัตรชมภาพยนตร์ฟรี 2 ที่นั่ง โทร 02-248-6699 ต่อ 2


เมอร์เซเดส-เบนซ์ PLUG-IN HYBRID

คุณชยุสกล่าวเพิ่มเติมว่า “เราพร้อมส่งมอบรถยนต์เมอร์เเดส-เบนซ์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริดซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เพิ่งได้เปิดตัวไปเร็วๆนี้ โดยจุดเด่นของระบบ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด คือ ประหยัดน้ำมันสูง เนื่องจากการผสานการทำงานโดยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าโดยมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงสามารถทดแทนกำลังจากเครื่องยนต์ในการใช้งานได้ สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ถึงความเร็ว 140 กม./ชั่วโมง หรือเป็นระยะทางสูงสุด 33 กม.(ในรุ่น S 500 e) โดยไม่มีการคายไอเสีย  รวมทั้งสามารถชาร์จไฟฟ้าจากไฟบ้านได้ด้วยชุดสายไฟและปลั๊กต่อที่มีมาพร้อมในเมอร์เซเดส-เบนซ์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริดทุกรุ่น”


เมอร์เซเดส-เบนซ์ PLUG-IN HYBRID

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด มีให้เลือกทั้ง C-Class (C 350 e) และ S-Class (S 500 e) โดยราคารุ่น C 350 e เริ่มต้นที่ 2.99 ล้านและ S 500 e เริ่มต้นที่ 6.39 ล้าน สำหรับระบบขับขี่ของระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริดนี้จะมีให้เลือกมากถึง 4 แบบ คือ 

HYBRID: รถยนต์ถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเน้นไปที่การใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าให้มากที่สุด

E-MODE: สามารถขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

E-SAVE: เน้นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าให้น้อยที่สุดเพื่อรักษาระดับกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ 

CHARGE: รถจะถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว จะไม่มีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเลยเพื่อให้มีกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอร์รี่ อย่างไรก็ตามเมื่อรถชะลอความเร็วหรือเบรคจะมีการเปลี่ยนพลังงานจลน์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้าและเก็บสะสมเข้าไปในแบตเตอรี่ เมื่อแบตเตอรรี่เต็มระบบจะตัดไปเป็นโหมด E-SAVE โดยอัตโนมัติ 

ในส่วนของระบบช่วงล่างนั้นเป็นระบบกันสะเทือนแบบ AIRMATIC พร้อมช่วงล่าง Continuously variable damping system ที่จะปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการขับขี่หลักเพื่อการตอบสนองการขับขี่ที่นุ่มนวลและการควบคุมที่ดีเยี่ยม


เมอร์เซเดส-เบนซ์ PLUG-IN HYBRID

สำหรับ C-Class   PLUG-IN HYBRID มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ  2,000 ซีซี พลัง 211 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตรที่ 1,200-4,000 รอบต่อนาที  ซึ่งให้กำลังจากเครื่องยนต์ 155 กิโลวัตต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ที่ 60 กิโลวัตต์ กำลังสูงสุดรวม 205 กิโลวัตต์ แรงม้าสูงสุดที่ 279 แรงม้าเมื่อผสานพลังกับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS มีให้เลือกทั้งตัวถังแบบ Sedan และ Estate รวม 3 รุ่นได้แก่

1. C 350 e Exclusive ราคา 2.99 ล้านบาท

2. C 350 e AMG Dynamic ราคา 3.34 ล้านบาท

3. C 350 e Estate AMG Dynamic ราคา 3.69 ล้านบาท

ในส่วนของพี่ใหญ่อย่าง S-Class PLUG-IN HYBRID นั้นมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน วี 6 ความจุ 3,000 ซีซี กำลังสูงสุด 333 แรงม้า ที่ 5,250-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,000 รอบต่อนาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 116 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร  ชาร์จไฟเต็มในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ให้กำลังขับเคลื่อนรวมทั้งระบบ 442 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.2 วินาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7G-TRONIC PLUS 

โดยการชาร์จไฟบ้านหนึ่งครั้งสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวสูงสุด ทื่ 33 กิโลเมตรที่ความเร็วสูงสุดถึง 140 กิโลเมตร ซึ่งมาพร้อมกับรูปแบบการขับขี่ 4 แบบเช่นเดียวกัน  โดย S 500 e มีให้เลือก 2 รุ่นได้แก่

1. S 500 e Exclusive  ราคา 6.39 ล้านบาท

2. S 500 e AMG Premium ราคา 6.99 ล้านบาท