Red Oven

Red Oven

ห้องอาหารแห่งนี้ชื่อ Red Oven ตั้งอยู่ในโรงแรม Sofitel So Bangkok โรงแรมแห่งใหม่ย่านใจกลางเมืองซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่มาของโรงแรมแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากสวนลุมพินีที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยสีเขียวของต้นไม้เป็นตัวแทนของธาตุไม้ และพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์เป็นตัวแทนของธาตุดิน สระน้ำใหญ่กลางสวนแทนธาตุน้ำ ตึกที่รายล้อมอยู่โดยรอบแทนธาตุโลหะและดวงอาทิตย์เป็นตัวแทนของธาตุไฟ ทำให้โรงแรมแห่งนี้วางคอนเส็ปต์ของแต่ละส่วนทั้งห้องพักและห้องอาหารแยกตามธาตุเป็น ดิน น้ำ ไม้ โลหะ และไฟ โดยในส่วนของห้องอาหารนั้นเป็นตัวแทนของธาตุไฟที่จะรังสรรค์อาหารเลิศรสออกมาให้ได้ลิ้มลองกัน

 

สิ่งพิเศษของห้องอาหาร Red Oven คือการผสมผสานระหว่างความเป็นธาตุไฟกับประสบการณ์เหนือระดับ ซึ่งถูกกำหนดโดยกอร์เจียสกรุ๊ป ทีมที่ปรึกษาทางด้านอาหารและเครื่องดื่มของประเทศอังกฤษ ซึ่งจะเน้นไปที่ความคิดสร้างสรรค์ มี มร.ร็อบบี้ บาร์จเป็นผู้ก่อตั้งและได้รางวัลมาแล้วมากมายจากทั่วทวีปยุโรป

 

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ “เตาโมลทานี” ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางห้องอาหาร เตาชิ้นนี้เป็นงานมาสเตอร์พีชเครื่องครัวที่มีขนาดยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสามารถปรุงอาหารได้ทุกอย่าง ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด อาหารที่ตั้งอยู่บนเตานี้จึงมีหลากหลาย และสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป เพื่อไม่ให้ลูกค้าที่มาใช้บริการเกิดความเบื่อหน่ายกับอาหารเดิมๆ แต่ถ้าอาหารไหนเป็นที่ถูกปาก Red Oven ก็ยังคงยืดถือให้อาหารจานนั้นๆ เป็นไฮไลท์ในแต่ละวัน

 

นอกจากอาหารที่วางเรียงอยู่บนเตาโมลทานีแล้ว Red Oven ยังมีซุ้มอาหารชนิดอื่นๆ ให้คุณได้เลือกอย่างไม่อั้น ทั้งมุมออร์แกนิคสลัดบาร์ ซึ่งผักทั้งหมดจะเป็นผักออร์แกนิคซึ่งดีต่อสุขภาพ แม้กระทั่งข้าวก็จะไม่มีข้าวขาว แต่จะเป็นข้าวแจสเบอร์รี่ ซึ่งมีคุณสมบัติในการป้องกันโรคมะเร็ง ซึ่งทางเชฟของห้องอาหารได้เลือกและคัดสรรมาอย่างดี

 

หรือจะเป็นมุมชีส ไส้กรอก แฮม ซาลามี่ ก็มีให้เลือกหลากหลายชนิด ใกล้ๆ กันเป็น Seafood on Ice มีทั้งกุ้ง หอย ปลา รวมถึงปลาแซลมอนรมควันด้วย

ในส่วนโซนด้านในซ้ายมือ ถ้าหันหน้าออกนอกโรงแรมจะมีการตกแต่งคล้ายๆ กับโกดังสินค้าซึ่งก็ดูเก๋และแปลกตา เดินลึกเข้าไปจะมีซุ้มอาหารญี่ปุ่นที่มีทั้งซาซิมิและซูชิทำสดไว้คอยเสิร์ฟอีกด้วย แถมด้วยการทำโรบาตายากิซึ่งเป็นการทำอาหารเนื้อ หมูไก่ แบบย่างเกลือและย่างซีอิ้วในสไตล์ญี่ปุ่นส่วน ถ้าใครอยากลิ้มลองเนื้อปลาก็สามารถสั่งได้ที่บริเวณเตาแดงโมลทานี

 

ขนมหวานของที่นี่ก็ไม่ธรรมดา เพราะทุกอย่างดูน่ากินไปหมด โดยเฉพาะช็อกโกแลตที่ยกมาเสิร์ฟจาก ช็อกโกแลต รูม ที่อยู่บนชั้นล็อบบี้ด้านล่าง แถมไอศกรีมก็ทำแบบโฮมเมดมีให้เลือกหลายรสชาติ ท็อปปิ้งก็มีหลายอย่างให้เลือก

 

Red Oven ตั้งอยู่บนชั้น 7 ของโรงแรมติดริมหน้าต่าง บริเวณด้านนอกสามารถเดินออกไปรับลมเย็นๆ ได้ บนกำแพงใหญ่ยังแฝงงานศิลปะภาพวาดมือเขียนแผนที่ที่ตั้งของโรงแรม Sofitel So Bangkok ไว้อีกด้วย และช่วงกลางคืนบริเวณด้านนอกนี้จะกลายเป็นบาร์ที่ให้คุณได้เสพบรรยากาศยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ ย่านกลางเมือง

 

ทั้งหมดทำให้ไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น ก็เป็นมื้อที่แสนอร่อย และพิเศษสำหรับเสาร์-อาทิตย์ เที่ยงถึงบ่ายสามโมงRed Oven มีโปรโมชั่น Weekend Wine Brunch ที่คัดเมนูเด่นๆ โดนๆ มาเตรียมไว้รอคุณ รวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มที่เติมแบบไม่อั้น ทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว น้ำผลไม้หลากชนิด รวมไปถึงซอฟท์ดริงค์ประเภทต่างๆ อีกด้วย เชื่อเถอะ ถ้าคุณได้มาที่นี่ คุณจะหลงใหลไปกับเตาสีแดงแน่นอน 

 

How to Go?

จากถนนสาทรก่อนถึงแยกถนนพระรามสี่ สังเกตซ้ายมือจะเห็นป้ายโรงแรม Sofitel So Bangkok หรือถ้ามาจากแยกถนนพระราม4-สาทร พอข้ามแยกมา โรงแรมตั้งอยู่ซ้ายมือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2624-0000

แรงบันดาลใจเล็กน้อยก็เป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จ