อดทน หรือ สู้ต่อ บทเรียน K-POP จากกรณีของ NewJeans

กรณีของ NewJeans เมื่อปี 2024 ที่แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าต้องการออกจากค่าย ADOR ภายใต้บริษัท HYBE พร้อมแจกแจงสถานการณ์ที่ทำให้พวกเธอตกอยู่ในสภาวะลำบากทั้งการโดนเมิน การถูกอิกนอร์ การสร้างเรื่องเข้าใจผิดต่าง ๆ ระหว่างกัน เกิดเป็นดราม่าที่ส่งผลกระทบต่อความคิดเห็นชาวเน็ตเป็นวงกว้าง เพราะบางส่วนชื่นชมที่ NewJeans กล้าออกมา Speak Out และสู้เพื่อสิทธิ์ของตัวเอง ขณะที่บางส่วนก็มองว่ามันเป็นปัญหาเล็กน้อยซึ่งใคร ๆ ล้วนต้องเจอระหว่างการทำงานและไร้น้ำหนักเกินกว่าจะร้องเรียน
แต่หากเราย้อนกลับไปมองข่าว K-Pop จะเห็นว่ามีเหตุการณ์ที่ไอดอลถูกปฏิบัติแย่ ๆ จากสต๊าฟหรือค่ายหลุดออกมาให้ได้รับรู้กันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งติ่งอย่างเราก็ทำได้เพียงส่งกำลังใจผ่านหน้าจอ เทรนด์ #แฮชแท็ก ปกป้องบนโซเชียลมีเดีย หรือแอดวานซ์หน่อยก็ส่งรถไปประท้วงหน้าตึกของค่ายเสียเลย (พี่สาวเกาหลีเขาชอบทำกัน)

ปี 2025 แม้ว่า NewJeans จะถูกตัดสินให้แพ้คดีกรณีฟ้องร้องกับค่าย ADOR ภายใต้บริษัท HYBE ด้วยเหตุผลว่าหลักฐานไม่เพียงพอ (หลักฐานบางอย่างที่ศิลปินต้องการก็อาจอยู่ในมือนายทุนเสียเอง...) ตามมาด้วยการจับตามองทิศทางในวงการ K-Pop ของ NewJeans ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป จะอุทธรณ์คดีต่อ จะ ‘สู้’ ต่อ VS จะกลับสู่อ้อมอกของค่าย จะ ‘ทน’ ทำงานต่อจนหมดสัญญาในปี 2029 ?
ซึ่งเมื่อเย็นวันที่ 12 พฤศจิกายน 2025 ได้มีแถลงการณ์จาก ADOR Official Account ว่าสมาชิกวง NewJeans เพียง 2 คนคือ ‘แฮริน’ กับ ‘ฮเยอิน’ (สมาชิกที่อายุน้อยที่สุด) จะกลับสู่ค่าย ADOR ตามเดิม ทำเอาเหล่าแฟนคลับเกือบใจสลายเพราะไร้การกล่าวถึงสมาชิกคนที่เหลือ และนั่นอาจหมายความว่าการกลับมาของ NewJeans ครั้งนี้อาจไม่ครบวง แต่หลังจากนั้นเพียงชั่วโมงเดียวก็มีแถลงการณ์ตามมาจาก Team Bunnies (กลุ่มแฟนคลับที่ตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการขณะต่อสู้คดี) ว่าสมาชิกอีก 3 คนคือ ‘มินจี’ ‘ฮันนิ’ ‘ดาเนียล’ จะกลับสู่ค่าย ADOR เช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามทางฝั่ง ADOR ได้ออกมาบอกอีกว่ากำลังคุยเจรจากับทั้ง 3 คนอยู่และยังไม่ออกแถลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งสร้างความสับสนให้กับชาวเน็ตอย่างมาก แถมข่าวลือก็ตามมาอีกเพียบ ดราม่าครั้งนี้ได้เสียงแตกออกเป็นหลายฝั่งเช่นกัน บางคนมองว่านายทุนกำลังมีเดียเพลย์ใส่ศิลปินอยู่ (มีเดียเพลย์ = สร้างกระแสข่าวบนพื้นที่สื่อ) บางคนมองว่าคดีฟ้องร้องมันอ่อนเกินกว่าที่จะชนะอยู่แล้ว บางคนมองว่า NewJeans ไม่ได้มีทางเลือกมากนักจึงต้องกลับไป บางคนมองว่าการทนอยู่ภายใต้สัญญาอาจดีกว่าการสู้ต่อในชั้นศาล และบางคนมองว่าการต่อสู้ของ NewJeans คือความพ่ายแพ้ของวงการ K-Pop …

บทเรียนที่อุตสาหกรรม K-Pop ไม่เคยจดจำ
เรามักจะเห็นข่าวการฟ้องร้องระหว่างไอดอลกับค่าย ทั้งเรื่องผลประโยชน์ เรื่องการเอารัดเอาเปรียบ เรื่องการปฏิบัติไม่เป็นธรรม เรื่องสัญญาทาส ฯลฯ ซึ่งแม้ผลตัดสินของศาลจะออกมาแบบไหน ฝั่งไอดอลจะแพ้หรือชนะคดี สิ่งที่ตามมาด้วยมักคือการถูกแบนและขัดขวางการทำงานต่อในวงการบันเทิงเกาหลี จนติ่งอย่างเราได้รับบทเรียนไปเสียแล้วว่าต่อให้จะแพ้-ชนะคดีในชั้นศาลก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะโปร่งใส ยิ่งกับค่ายเพลงที่ใหญ่เบอร์ต้น ๆ ของอุตสาหกรรม K-Pop ด้วยแล้ว บางครั้งอิทธิพลนายทุนก็คับฟ้าเกินกว่าไอดอลตัวเล็ก ๆ จะไปสู้ได้จริง ๆ ช่างน่าเศร้าเมื่อเผลอคิดว่าอนาคตก็คงจะมีคดีคล้ายกันนี้ขึ้นมาให้เห็นอีกไม่จบไม่สิ้น

ก่อตั้ง Idol Union จากกรณี ‘ไอดอลไม่ใช่แรงงานตามกฎหมาย’
จากเหตุการณ์ที่กระทรวงแรงงานเกาหลีใต้ ปัดตกคำร้องเรียนของ ‘ฮันนิ NewJeans’ กรณีถูกกลั่นแกล้งจากบุคลากรในบริษัท HYBE ทำให้สาธารณชนได้รับรู้ว่าอาชีพไอดอล รวมถึงอาชีพของเหล่าคนบันเทิงอื่น ๆ อาทิ นักร้อง นักแสดง MC ทีมเบื้องหลัง ฯลฯ หลายกรณีไม่นับว่าเป็นแรงงานตามกฎหมายของเกาหลีใต้ เนื่องจากเป็นการเซ็นสัญญาในลักษณะฟรีแลนซ์ (Freelance) ทำให้สถานะไม่ใช่พนักงานของบริษัท ซึ่งนี่กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้คนในอุตสาหกรรมบันเทิงมักโดนเอาเปรียบจากค่าย อย่างที่เรามักจะเห็นกันบ่อย ๆ ในวงการ K-Pop ทั้งเรื่องสัญญาทาสหรือเรื่องชั่วโมงการทำงานที่หนักหนาเกินไป
ล่าสุดมีข่าวออกมาว่า Idol Union หรือสหภาพไอดอลอาจจะเปิดตัวภายในปีนี้ โดยมีแผนมุ่งเน้นไปที่การคุ้มครอง ปกป้องสิทธิ์ และเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมการทำงาน ซึ่งมันย่อมส่งผลดีต่อเหล่าไอดอลที่ชาวติ่งรัก แม้ว่าจะไม่มีการอ้างอิงถึง NewJeans’s Case แต่ก็ไม่แน่ว่ากรณีของพวกเธอรวมถึงกรณีของวงไอดอลอื่น ๆ ที่พบเจอกับความยากลำบากของการถูกเอาเปรียบในที่ทำงาน อาจจุดชนวนเหตุให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างขึ้นในอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ และได้แต่หวังว่าทิศทางต่อจากนี้ของไอดอล K-Pop จะเลวร้ายน้อยลงบ้าง




