จากไอเดียตั้งต้นประเด็นบัญชีเงินฝากที่ไม่เคลื่อนไหว สู่ภาพยนตร์จาก Netflix ที่จะพาไปพบกับเรื่องราวสุดระทึกใน “ลักกันวันตาย (Everybody Loves Me When I’m Dead)” ผลงานล่าสุดของผู้กำกับ นิธิวัฒน์ ธราธร ซึ่งเล่าเรื่องราวสุดเข้มข้นของสองพนักงานธนาคารที่ต่างตกอยู่ในสภาวะบีบคั้นทางการเงิน จึงร่วมมือกันใช้ช่องโหว่ของธนาคารขโมยเงินจากบัญชีคนตาย โดยไม่คาดคิดว่าการตัดสินใจเพียงครั้งเดียวนี้จะผลักให้ทั้งคู่ตกลงไปสู่ห้วงอันตรายที่บานปลายเกินควบคุม ถ่ายทอดเรื่องราวโดยนักแสดงรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ที่มาประชันฝีมือ ทั้งเคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์,  ริว-วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล, ฮิวโก้-จุลจักร จักรพงษ์ และ เอินเอิน-ฟาติมา เดชะวลีกุล ร่วมด้วยนักแสดงคุณภาพอีกคับคั่ง สามารถรับชมได้แล้ววันนี้ที่ Netflix เท่านั้น

บัญชีไม่เคลื่อนไหว ใกล้ตัวกว่าที่คิด

ใครหลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับคำว่า “Dormant account” หรือ “บัญชีไม่เคลื่อนไหว” แต่แท้จริงแล้วประเด็นนี้ใกล้ตัวอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะบัญชีไม่เคลื่อนไหว คือบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการทำธุรกรรมทางการเงินใดๆ เกินระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด จนกระทั่งบัญชีถูกล็อกและเปลี่ยนสถานะ หมายความว่าเงินในบัญชีเหล่านี้จะคงค้างอยู่ในระบบ และคาดว่ามีมูลค่ารวมมหาศาล 

นิธิวัฒน์ ธราธร ผู้กำกับ ผู้เขียนบท และผู้อำนวยการสร้าง ได้ผูกประเด็นดังกล่าวเข้ากับเส้นเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัวและค่านิยมทางสังคม โดยเผยว่า “เรื่องแบบนี้อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือญาติๆ ที่เราไม่เคยรู้เลยว่าใครมีบัญชีที่ไหน เท่าไรบ้าง โดยที่เขาก็ไม่เคยบอกใครไว้ เพราะแม้แต่ตัวเราเองก็ไม่ได้บอกทุกคน หรืออาจลืมไปแล้วว่าเปิดบัญชีไว้ที่ไหนบ้าง หากวันหนึ่งเราไม่อยู่แล้ว ก็เป็นไปได้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเราเคยมีเงินเท่าไรและไม่ได้ไปทำเรื่องนำเงินออกมา เงินเหล่านั้นก็จะคงค้างในบัญชีไปเรื่อยๆ  ผมว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจมากในการนำมาพัฒนาเป็นภาพยนตร์” จนออกมาเป็นพล็อตเรื่องเฉพาะตัวที่สะท้อนธรรมชาติของมนุษย์และช่องโหว่ของระบบ ซ้ำยังเชื่อมโยงกับประสบการณ์รอบตัวของผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง 

นักแสดงคุณภาพต่างเจเนอเรชั่น เคมีเข้มข้นจนต้องจับตา 

ผู้ชมจะได้เห็นการปะทะฝีมือของนักแสดงคุณภาพต่างเจเนอเรชั่น ที่ในแต่ละฉากได้ส่งเคมีสุดเข้มข้นด้าน เคน-ธีรเดช (รับบท โต) นักแสดงสุดไอคอนิกแห่งจอโทรทัศน์ที่ทุกคนคิดถึง เล่าถึงการร่วมงานกับคู่หูต่างวัยอย่าง ริว-วชิรวิชญ์ (รับบท เพชร) ว่า “ด้วยความที่ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน เราต้องคุยกันเยอะ ปรับจูนเข้าหากัน จนทำงานร่วมกันไปเรื่อยๆ ก็สนิทกันจริงๆ เลยครับ ผมเอ็นดูเขานะ ตัวผมเองก็เข้าใจริวในวัยนี้ว่าเขาคงอยากจะคุยกับรุ่นพี่เพื่อที่จะได้เรียนรู้ไปด้วย ทำให้นึกถึงตัวเองในสมัยก่อนเหมือนกันครับ” 

ส่วน ริว-วชิรวิชญ์ เผยเบื้องหลังกองถ่ายว่า “ผมชอบบรรยากาศของนักแสดงในเรื่องนี้มาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอทุกคนตอนอ่านบท เวิร์กช็อปร่วมกัน คุยเล่นกัน เราค่อยๆ ละลายพฤติกรรมเข้าหากัน อยู่ในกองก็ช่วยเหลือกันจนสนิท ผมเหมือนได้คนที่เป็นทั้งเพื่อน พี่ และพ่อมาเพิ่มเลยครับ” 

หลากหลายมิติตัวละคร

นอกจากคู่หูพนักงานธนาคาร ผู้ชมยังจะได้เห็นนักแสดงระดับแถวหน้าอย่าง ฮิวโก้-จุลจักร รับบท วอดก้า ตัวละครที่เขาให้นิยามว่าเหมือน “หมาที่หลุดโซ่ตลอดเวลา” โดยระบุว่าบทภาพยนตร์คือเหตุผลสำคัญที่เขาตัดสินใจรับเล่น “การพิจารณาบทแต่ละครั้ง ผมต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ควรมีอยู่ไหม การมีอยู่ของเราในภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้มันสำเร็จไหม และต้องจูงใจให้ผมอยากมีส่วนร่วม เพราะผมไม่ได้แสวงหาบทนำ แต่มองหาบทที่ท้าทายและแตกต่างจากตัวเองมากกว่า ตัวละครวอดก้าไม่ใช่คนปกติ เป็นเหมือนหมาที่หลุดโซ่ตลอดเวลาและมองคนรอบข้างเป็นเหยื่อ ซึ่งในความเป็นจริงคงไม่มีคนแบบนี้ แต่เพราะความเป็นภาพยนตร์ ผู้กำกับจึงได้ปล่อยให้ตัวละครได้วิ่งหน่อย เป็นตัวละครที่ใส่บังเหียนน้อยที่สุดครับ” 

ส่วนนักแสดงรุ่นใหม่ที่ใครหลายคนจับตาอย่าง เอินเอิน-ฟาติมา ได้รับบทเป็น “เข็ม” ลูกสาวที่ถูกทอดทิ้งตั้งแต่ยังเล็ก และเลี้ยงตัวเองด้วยอาชีพหมอกระเป๋า รับฉีดหน้าเสริมความงาม โดยเธอได้เรียนรู้ทักษะใหม่ รวมถึงหาจุดที่แสดงออกมาได้พอดีกับตัวละคร “เอินได้ทำเวิร์กช็อปเพิ่มเติมตั้งแต่วิธีการจับเข็มฉีดยา เรียนรู้ท่าทางและรายละเอียดของหมอกระเป๋าที่แตกต่างจากหมอในคลินิก ไปจนถึงวิธีการพูด การแสดงออกที่ต้องดูมั่นใจ กล้าได้กล้าเสีย ขณะเดียวกันก็ต้องถ่ายทอดความเปราะบางที่เก็บซ่อนเอาไว้คนเดียวออกมาให้ได้ด้วย การเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นโอกาสที่ดีมากที่ได้เรียนรู้จากพี่ๆ เพราะทุกคนเป็นนักแสดงที่เก่งมาก และเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้อะไรต่างๆ เยอะมากค่ะ”

สำรวจเรื่องราวระทึกขวัญสุดเข้มข้นเบื้องหลังเงินฝาก 30 ล้านบาทในบัญชีคนตายได้แล้ววันนี้ กับภาพยนตร์เรื่อง “ลักกันวันตาย (Everybody Loves Me When I’m Dead)” รับชมได้ในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ที่ Netflix เท่านั้น!