
3 เหตุผลที่ไม่ควรพลาด “Tempest” ซีรีส์เกาหลีแนวสปายทริลเลอร์สุดเข้มข้นที่จะเป็นปรากฏการณ์แห่งปี พร้อมให้สตรีม 10 กันยายนนี้ บน Disney+ Hotstar ที่นี่ท
เตรียมพบกับปรากฏการณ์แห่งปี! “Tempest” ซีรีส์เกาหลีแนวสายลับสุดระทึกระดับเวิลด์คลาส ที่มีเส้นเรื่องเข้มข้นผสมผสานทั้งดราม่าการเมือง แอ็กชันสุดเข้มข้น ความตื่นเต้นระทึก พร้อมกลิ่นอายโรแมนซ์ที่ครบเครื่องไม่เหมือนใคร ทั้งยังรวมทัพนักแสดงชั้นนำจากทั้งเกาหลีและฮอลลีวูด พิเศษสุดด้วยการกลับมาของซูเปอร์สตาร์ “จอนจีฮยอน” ร่วมด้วยทัพนักแสดงมากฝีมืออย่าง คังดงวอน นักแสดงฮอลลีวูดอย่าง จอห์น โช, ไมเคิล แกสตัน และอีกมากมาย พร้อมงานโปรดักชันระดับโลกที่ยกทีมไปถ่ายทำกว่า 200 โลเคชันใน 13 ประเทศ
Tempest ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ซอมุนจู” อดีตนักการทูตสาวมากฝีมือที่พยายามเปิดโปงความจริงเบื้องหลังเหตุลอบสังหารผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่เมื่อเธอค้นลึกลงไปกลับพบว่าเบื้องหลังเกี่ยวพันกับแผนสมคบคิดข้ามชาติที่ซ่อนอยู่ ซึ่งโยงใยไปถึงทำเนียบขาวในสหรัฐอเมริกา ซอมุนจู ต้องต่อสู้ท่ามกลางเครือข่ายของการหักหลัง ความลับทางการเมือง และภัยร้ายรอบด้าน ท่ามกลางชีวิตที่ตกอยู่ในอันตรายตลอดเวลา เธอได้รับการปกป้องจากทหารรับจ้างลึกลับที่ชื่อ “แพคซานโฮ” แต่ด้วยอดีตของเขาที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำ... ซอมุนจู จะสามารถไว้ใจเขาได้จริงหรือไม่?
และนี่คือ 4 เหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่ควรพลาดซีรีส์ “Tempest” โดยเด็ดขาด
การกลับมาของซูเปอร์สตาร์ “จอนจีฮยอน” ในบทบาทที่ไม่เคยเล่นมาก่อน!
Tempest ยังเป็นการหวนคืนสู่จอซีรีส์ครั้งสำคัญของ “จอนจีฮยอน” ซูเปอร์สตาร์แห่งวงการ K-Drama ในบท “ซอมุนจู” อดีตนักการทูตที่ต้องเผชิญกับการสมคบคิดระดับโลก เธอเล่าว่า สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจร่วมโปรเจกต์นี้อย่างไม่ลังเลคือความท้าทายของตัวละคร ซอมุนจู หญิงสาวที่เงียบ สุขุม แต่แฝงด้วยพลังและความเข้มแข็งที่ไม่อิงความเป็น “หญิง” แบบเดิม ๆ การตีความของ จอนจีฮยอน ครั้งนี้ทำให้ Tempest เป็นซีรีส์ที่น่าจับตายิ่งขึ้น เพราะมันคือการพลิกภาพลักษณ์ครั้งใหม่ของนักแสดงหญิงระดับตำนานคนนี้
“ซีรีส์การเมืองที่เล่าเรื่องผ่านผู้หญิงนั้นไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนัก และฉันก็ไม่เคยได้เล่นบทลักษณะนี้มาก่อนค่ะ ระหว่างการเตรียมตัว ฉันก็ต้องดูซีรีส์กับหนังที่มีนักการเมืองผู้หญิงหลายเรื่อง เพื่อทำความเข้าใจว่าพวกเธอควรได้รับการถูกถ่ายทอดออกมาอย่างไร ซึ่งฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าบทของฉันใน Tempest ไม่เหมือนใครจริง ๆ โดยเฉพาะบทพูดที่มีความเฉพาะตัวมาก ทำให้ฉันต้องใช้เวลาเยอะมากในการอ่านและทำความเข้าใจ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่มีค่าและน่าจดจำมากค่ะ” จอนจีฮยอน เผย
โปรดักชันสุดทะเยอทะยาน ครอบคลุม 13 ประเทศทั่วโลก
ซีรีส์นี้ถ่ายทำกว่า 200 โลเคชันใน 13 ประเทศ เพื่อถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของปฏิบัติการสายลับระดับนานาชาติ ทั้งฉากการเมือง การทูต แอ็กชันไล่ล่า และการต่อสู้กันในเชิงจิตวิทยา ทุกอย่างได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้คนดูรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลาง “พายุการเมือง” ที่เกิดขึ้นจริง
ทีมโปรดักชันเบื้องหลังซีรีส์เรื่อง Tempest คือการรวมตัวของทีมระดับหัวกะทิของวงการซีรีส์เกาหลีและนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น ผู้กำกับ คิมฮีวอน (จากเรื่อง Queen of Tears) ที่ขึ้นชื่อเรื่องงานกำกับสุดสมจริง นักเขียน จองซอกยอง ที่ถนัดเล่าเรื่องประเด็นใหญ่ แต่มีมิติส่วนตัวและเข้าถึงอารมณ์ได้ลึกซึ้ง อีกทั้งด้านงานภาพและฉากแอ็คชันก็ได้ผู้กำกับคิวบู๊ระดับแนวหน้าวงการ ฮอมยองแฮง (จากเรื่อง The Roundup: Punishment, Badland Hunters) ที่เสริมความสมจริงและสไตล์ในทุกฉากบู๊ ยกทีมโปรดักชันดีไซน์และ VFX ที่เคยฝากผลงานในเรื่อง Parasite, Along with the Gods, Narco-Saints มาฝากฝีไม้ลายมือไว้ในซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งการันตีว่า Tempest จะมอบทั้งภาพ ความรู้สึก และบรรยากาศที่ยิ่งอกว่ามาตรฐานซีรีส์เกาหลีทั่วไปที่เราเคยดู
เรื่องราวทริลเลอร์ที่เข้มข้นเกินคาด แต่สะท้อนหัวใจมนุษย์
เพื่อเปิดโปงความจริงในเกมการเมืองที่เดิมพันด้วยชีวิต เรื่องราวของ Tempest จึงเต็มไปด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคม ทั้งฉากแอ็กชันที่ทำถึง และมิติทางอารมณ์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว แม้จะเป็นซีรีส์สายลับระดับโลก แต่แก่นเรื่องของ Tempest ยังคงเล่าถึงความสัมพันธ์ที่เปราะบางระหว่าง มุนจู และ ซานโฮ ที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูด ความหวัง ความไว้ใจ และการค้นหาความจริงที่ทั้งหวานซึ้งและเจ็บปวด ทำให้ซีรีส์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องราวการแอ็คชันผจญภัยแนวสายลับ แต่มันคือเรื่องราวที่ “จับใจ” และสะท้อนคำถามสากลของมนุษย์ ทั้งเรื่องของ อำนาจ ความจริง ความเชื่อใจ และ ความรัก
ผู้กำกับ คิมฮีวอน ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความสมจริงและรายละเอียดในทุกขั้นตอนของการสร้างซีรีส์ Tempest ว่า “ผมอยากเล่าเรื่องที่สมจริงที่สุด เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกว่า เรื่องราวทั้งหมดนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในโลกแห่งความจริง ไม่ใช่เพียงเรื่องราวสมมุติบนหน้าจอ เราต้องการให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์นั้น ๆ ได้ร่วมลุ้นไปกับตัวละคร รู้สึกถึงความเสี่ยงภัยอันตราย ความกังวล และแรงดึงดูดที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจแต่ละครั้งของพวกเขา ทั้งหมดนี้คือหัวใจของการสร้างซีรีส์ Tempest ที่ทั้งสมจริง น่าติดตาม และเต็มไปด้วยอารมณ์ความตึงเครียดแบบสายลับระดับโลก”
เตรียมดำดิ่งสู่โลกแห่งแผนสมคบคิด การจารกรรม สถานการณ์ล่อแหลม และเล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง ในซีรีส์ Tempest จะเปิดตัวให้สตรีมพร้อมกัน 3 ตอนแรกในวันพุธที่ 10 กันยายนนี้ พร้อมให้ดูได้ทั้งเวอร์ชันซับไทยและพากย์ไทย และจะปล่อยตอนใหม่ทุกสัปดาห์ให้รับชมบน Disney+ Hotstar ที่นี่ที่เดียว