ปิดฉากลงอย่างสวยงามกับคอนเสิร์ตครั้งสำคัญ “Singha Corporation presents No More Belts The Last Reunion Concert” โดยทีม OKD ในฐานะผู้จัด ได้รวมตัวครั้งใหญ่ของศิลปินที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคน ในรอบ 17 ปี นำทีมโดยวงดนตรียุคบุกเบิกอย่าง วง Sleeper1, Portrait, วง Morningsurfers  และวง Soundlanding พร้อมพาเพื่อนพี่น้องที่โตมากับ No More Belts อาทิ ดิว วง Better Weather,  อ้น วง Moon,  อีฟ  วง 60c, บาส Go Went Go, ป่าน วง August 6th, Meyvee, วง After Blues Moon, โต้ วง Nap a Lean, ติ๊ก เจษฏาภรณ์, เป๊กซ์ วง ZEAL, ปี่ปี๊ สมภพ, ฆ้อง มงคล, เมื่อย วง Scrubb และข่วย วง Rule Dark มาขึ้นเวทีมาร่วมบันทึกความทรงจำร่วมกัน ทำให้บรรยากาศภายใน JJ Hall อบอวลไปด้วยความคิดถึงและความสุข เพราะทุกเสียงเพลงที่ถูกขับขานไม่ใช่แค่เพลงเก่า แต่คือความทรงจำร่วมที่ยังชัดเจนในใจของแฟนเพลงตลอดไป

เปิดตัวคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยศิลปินหลักอย่าง วง Morningsurfers, วงSoundlanding, , Portrait  และวง Sleeper1 ได้มีพาร์ทโชว์ของตัวเองบนเวทีอย่างต่อเนื่อง ส่งไม้ต่อกันราวกับไม่เคยห่างหายจากเวทีไปเกือบสองทศวรรษ ขนทุกเพลงฮิตยุค 2000s จากค่าย No More Belts มาเสิร์ฟแฟน ๆ ตัวจริงให้ได้ร้องตามกันได้ทุกท่อน ตั้งแต่หน้า A ไปจนถึงหน้า B เหมือนว่าทุกคนได้หลุดไปในยุคของการฟังเพลงผ่านซีดี ย้อนกลับไปอยู่ในห้องนอนตอนยังเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง

นอกจากศิลปินหลักแล้ว ค่ำคืนนี้ยังอัดแน่นไปด้วยโมเมนต์จากแขกรับเชิญสุดพิเศษที่เรียกเสียงเฮสนั่นทั้งฮอลล์ ไม่ว่าจะเป็นเซอร์ไพรส์จากป๋าเต็ด ยุทธนา ที่ขึ้นมาร่วมร้อง I Wanna Be With You คู่กับเสียงกีตาร์สุดละมุนจากฆ้อง มงคล การปรากฏตัวครั้งสำคัญของ อีฟ พุทธิดา และ เป๊กซ์ ปราชญ์ สองในสมาชิก วง 60c ที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน รวมถึงติ๊ก เจษฎาภรณ์ ที่ทำเอาฮอลล์แทบแตกเมื่อติ๊กสะพายเป้ขึ้นเวทีมาพูดคุย พร้อมพาทุกคนย้อนบรรยากาศรายการ Navigator และปิดท้ายด้วยการแจกเสื้อให้แฟนคลับผู้โชคดีถึงที่ และแขกรับเชิญอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดิว วง Better Weather,  อ้น วง Moon,  บาส Go Went Go, ป้าน วง August 6th, Meyvee, วง After Blues Moon, โต้ วง Nap a Lean,  ปี่ปี๊ สมภพ, เมื่อย วง Scrubb และข่วย วง Rule Dark ที่มารวมสร้างความทรงจำอันงดงามร่วมกัน

คอนเสิร์ตในค่ำคืนนี้ไม่เพียงแต่พาศิลปินกลับขึ้นเวที หากยังปลุกความทรงจำร่วมของแฟนเพลงที่เติบโตมากับเสียงดนตรียุค 2000s ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ถึงแม้หลายคนจะไม่ได้รู้จักทุกเพลงในลิสต์แบบครบถ้วน แต่บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยพลังของการความตั้งใจฟัง และความตื่นเต้นกับการได้ค้นพบเพลงใหม่ ๆ ที่เคยอยู่ในใจใครหลายคนมานานนับสิบปี

หลายเพิ่งเริ่มฟังเพลงเหล่านี้จริงจังเมื่อรู้ว่าจะได้มาชมคอนเสิร์ต จึงตั้งใจเปิดเพลย์ลิสต์จากที่เพจปล่อยออกมาเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม และผลลัพธ์คือประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่เพียงแค่ “เข้าใจ” เพลง แต่ยัง “รู้สึก” ไปกับมัน เหมือนกับที่ ปอย Portrait กล่าวบนเวทีว่า“อยากให้ทุกคนย้อนกลับไปวันเวลาที่พวกเราพลุ่งพล่าน โจนทะยาน แล้วก็ทำเพลงแบบไม่กลัวอะไรเลย ทุก ๆ เพลงในคอนเสิร์ตนี้จะเป็นเหมือนช่วงเวลาเหล่านั้น ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะได้กลับมาอีกรึเปล่า แต่วันนี้มันจะเกิดขึ้นต่อหน้าทุก ๆ คน ในคอนเสิร์ตที่พวกผมตั้งใจจัดมันมาก ๆ”

คอนเสิร์ต NO MORE BELTS ครั้งสุดท้ายนี้ คือการกลับบ้านของคนดนตรีอินดี้ ที่เราได้กลับมาเจอกันทั้งบนเวทีและคนฟัง ราวกับงานเลี้ยงรุ่นของหัวใจที่ยังเต้นจังหวะเดิม เพราะคอนเสิร์ตนี้ไม่ใช่แค่การรวมตัวของศิลปิน แต่มันคือการรวมใจของเหล่าคนที่เคยเติบโตมากับเสียงดนตรีเดียวกัน เหล่าคนที่เคยมองเรื่องราวชีวิตของตัวเองผ่านทำนองเดียวกัน มาร่วมกันสร้างความทรงจำบทใหม่ด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย และช่วยทำให้หน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ดนตรีอินดี้ไทย ปิดลงอย่างงดงาม ไม่ใช่เพราะว่ามันถึงจุดจบ แต่เพราะมันถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์แล้ว ดั่งคำของ “พระอั๋น”(อั๋น วง Moon) ที่ฝากไว้ในวิดีโอตอนช่วงท้ายของคอนเสิร์ตว่า "เชื่อว่าสักวันต้องกลับมาเจอกันใหม่แน่นอน…"

#NoMoreBeltsTheLastReunionConcert #NoMoreBelts #SinghaCorporation #มาม่าอร่อย #IHaveTicket #Portrait #Sleeper1 #Morningsurfers #Soundlanding #MuzikMove #OKD