ดีงามสมคำร่ำลือที่แท้ทรู!! สำหรับ “Final Destination Bloodlines ไฟนอลเดสติเนชั่น ทายาทโกงตาย” หยิบสูตรโกงตายแบบเดิม ๆ มาพลิกมุมกลับปรับมุมตายได้สดใหม่ เปิดโอกาสให้ตัวหนังได้เคารพต้นฉบับ พร้อมขยายแนวคิดสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ของแฟรนไชส์ได้สำเร็จ

หลังจากที่ทีมผู้สร้างชุดก่อนหน้า พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะสร้างสรรค์ฉากการตายให้โหดสุด เลือดสุด และเหวอสุด ชนิดที่เราต้องมานั่งลุ้นและคาดไม่ถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเรื่องราวดูซ้ำเดิม เปลี่ยนนิดเพิ่มหน่อยในภาคหลัง ๆ กลับมาครั้งนี้ Final Destination Bloodlines ขอเซย์ไฮให้กับอะไรใหม่ ๆ บ้างด้วยการเขยิบมาเล่นประเด็นเรื่องทายาโกงตาย กับพล็อตที่ว่ามันจะเป็นอย่างไร ถ้าคนโกงตายมีลูกมีหลาน จนความตายต้องมาเก็บงานแบบยกบ้านไม่ให้เหลือ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาบอกได้เลยว่า ‘เวรี่กู๊ดเวอร์’ ครับ

จุดเด่นของ Bloodlines คือการเปลี่ยนกลุ่มตัวละครจากวัยรุ่นมาเป็นครอบครัว พอหยิบดราม่าใส่เข้าไปทำให้เนื้อหาดูมีน้ำหนัก จับต้องได้มากขึ้น แถมดูลุ้นและอยากเอาใจช่วยตัวละครเพิ่มมากขึ้น เสริมด้วยมุกตลกร้ายที่ลงตัว ถูกจังหวะ ไม่กลบความสยอง

ขณะเดียวกัน ความโหดของภาคนี้ยังคงถึงอกถึงใจแฟนเดนตายไม่เปลี่ยนแปลง ดีไซน์แต่ละฉากได้ครีเอทแบบสุด ๆ แถมยังจัดหนักทุกโสตสัมผัสด้วย Filmed For IMAX พร้อมสัดส่วนขยายเมื่อความตายปรากฏตัว ยกระดับความเสียวสยองได้แบบขั้นสุด ตรึงตาตรึงใจเอาให้หายคิดถึงกันไปเลย

ที่สำคัญ นี่คือผลงานการแสดงเรื่องสุดท้ายของ ‘โทนี่ ทอดด์’ ผู้ล่วงลับ ซึ่งถือเป็นการอำลาที่สมเกียร์ติ ส่งท้ายด้วยเมสเสจที่จริงใจ และมีความหมายต่อเหล่าแฟนเดนตายของเฟรนไชส์นี้เป็นอย่างมาก

Final Destination Bloodlines จึงไม่ใช่แค่ผลงานภาคต่อที่ชุบชีวิตแฟรนไชส์ให้กลับมาอีกครั้ง แต่ยังเป็นผลงานที่ติ๊กถูกทุกข้อ ตอบโจทย์ทั้งความบันเทิงและความต้องการของเหล่าแฟน ๆ อย่างแท้จริง