“Another Simple Favor เพื่อนหาย อย่าหา 2” ภาพยนตร์ภาคต่อสุดแสบปั่นจาก “A Simple Favor เพื่อนหาย อย่าหา” (2018)  ที่จะพาผู้ชมกลับสู่โลกแห่งความลับ การทรยศ และแฟชั่นสุดเก๋อีกครั้ง

Stephanie Smothers (รับบทโดย Anna Kendrick) และ Emily Nelson (รับบทโดย Blake Lively) กลับมาพบกันอีกครั้งบนเกาะคาปรี ประเทศอิตาลี เพื่อร่วมงานแต่งสุดอลังการของ Emily ท่ามกลางบรรยากาศอันงดงามและแฟชั่นสุดเลิศ แต่เบื้องหลังความหรูหรา กลับซ่อนเร้นอันตราย ความลับดำมืด และเงื่อนงำฆาตกรรมที่อาจคุกคามทุกคนบนเกาะนี้

Another simple favor พาผู้ชมออกเดินทางสู่การผจญภัยสุดระทึกในบรรยากาศเปี่ยมมนต์เสน่ห์ของอิตาลี บนเกาะคาปรีอันตรึงใจ ที่ซึ่งความหรูหรา การหลอกลวง และเหตุการณ์หักมุมสุดช็อกเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ภายใต้ผลงานกำกับอีกครั้งของ Paul Feig ที่คราวนี้ยกระดับทุกองค์ประกอบที่แฟนๆ ชื่นชอบจากภาพยนตร์ตลกร้ายในปี 2561 ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น พร้อมด้วยแฟชั่นสุดอลังการ ดราม่าถึงใจ และปริศนามากมาย ดำเนินเรื่องราวท่ามกลางสถานที่อันงดงาม พบกับนักแสดงจากภาคแรกพร้อมด้วยตัวละครลึกลับหน้าใหม่ เมื่องานแต่งดำเนินไปและความลับของครอบครัวที่ซ่อนไว้ปรากฏขึ้น พบกับแบบทดสอบมิตรภาพระหว่างเพื่อนเก่าและการทรยศที่ไม่มีใครคาดคิด ไม่มีใครที่จะอยู่ได้อย่างปลอดภัยในภาพยนตร์คอเมดี้สุดระทึกเรื่องนี้ และทุกชั่วขณะจะทำให้คุณต้องคาดเดา ตั้งแต่ต้นจนถึงวินาทีสุดท้าย

Prime Video ภูมิใจนำเสนอ Another Simple Favor ภาพยนตร์ที่พลิกโฉมคำจำกัดความของครอบครัวที่ไม่สมประกอบ ด้วยการผสมผสานอารมณ์ขันเฉียบคมเข้ากับเกมอันตรายที่เต็มไปด้วยความลับและคำลวง เสื้อผ้าสุดเลิศและสถานที่สุดหรูของเรื่อง เป็นฉากหน้าที่สมบูรณ์แบบที่ซ่อนเร้นความโกลาหล ฆาตกรรม และความวุ่นวายที่คุกรุ่นใต้ความหรูหรานั้น เมื่อเรื่องราวค่อยๆ เปิดเผย ภาพลักษณ์หรูหราสมบูรณ์แบบกลับยิ่งเพิ่มความน่าสงสัย นำพาไปสู่ความจริงอันดำมืดที่ซ่อนอยู่ และสิ่งนี้เองจะทำให้คุณหยุดดูไม่ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

“Another Simple Favor เพื่อนหาย อย่าหา 2” สตรีมพร้อมกันทั่วโลกบน Prime Video วันที่ 1 พฤษภาคม นี้

เกร็ดน่าสนใจเกี่ยวกับ ภาพยนตร์ Another Simple Favor ของ Prime Video

·       ผู้กำกับ Paul Feig ไม่ได้วางแผนสร้างภาคต่อในตอนแรก

ภาพยนตร์ A Simple Favor ภาคแรกทำรายได้เกือบ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทีมผู้สร้างไม่เคยคิดจะทำภาคต่อ จนกระทั่งกระแสของภาพยนตร์กลับมาอีกครั้งในช่วงโควิด เนื่องจากผู้ชมได้รับชมผ่านช่องทางสตรีมมิ่ง โดยมีแฟนๆชมซ้ำเป็นจำนวนมาก นั่นจึงเป็นการจุดประกายให้มีภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้ ทั้งนี้ผู้กำกับ Paul Feig ให้สัมภาษณ์ว่าเขาหลีกเลี่ยงการทำภาคต่อมาตลอด เพราะเขาเชื่อว่าเสน่ห์ของหนังอยู่ที่การได้รู้จักตัวละครครั้งแรก แต่สำหรับ Stephanie และ Emily เขารู้สึกว่าพวกเธอยังมีอะไรให้เล่าต่อ และอยากให้ Stephanie หลุดจากโลกแม่บ้าน แล้วออกไปเผชิญกับความวุ่นวายกลางความหรูหราของยุโรป

·       ทีมเก่ารวมตัว และ ทีมใหม่สุดปัง

แฟน ๆ จะได้พบกับการกลับมาของทีมนักแสดงชุดเดิมที่ทุกคนคิดถึง ไม่ว่าจะเป็น Anna Kendrick ในบทคุณแม่ Vloger, Blake Lively ในบท Emily สาวลึกลับที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่คาดไม่ถึง และ Henry Golding ในบท Sean อดีตสามีของ Emily นอกจากนี้ยังเสริมทัพด้วยนักแสดงใหม่สุดปัง นำโดย Michele Morrone (จาก 365 Days) ที่มารับบท Dante Versano มาเฟียหนุ่มรูปหล่อ ผู้ที่จะมาเป็นเจ้าบ่าวคนใหม่ของ Emily, Allison Janney นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ที่มารับบท Linda ป้าของ Emily, Elizabeth Perkins ในบทแม่ของ Emily ที่ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย และ Elena Sofia Ricci ในบท แม่ของ Dante ผู้ไม่ไว้ใจลูกสะใภ้คนใหม่แม้แต่น้อย

·       Henry Golding ขอให้ตัวเองได้ “ปล่อยของ” กว่าภาคแรก

เขาบอกกับผู้กำกับว่าอยากให้ตัวละคร Sean ได้สนุกบ้างในภาคนี้ เพราะในภาคแรกเขาโดนหนักมาก ภาคนี้ผู้กำกับเลยจัดเต็มความปั่นและแสบให้เต็มที่

·       สถานที่ถ่ายทำสุดอลังการ

ทีมงานยกกองถ่ายไปยัง เกาะคาปรี และ กรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อถ่ายทอดบรรยากาศหรูหราของเรื่องราวให้สมจริง ไม่ว่าจะเป็น Faro di Punta Carena ประภาคารริมหน้าผาที่กลายเป็นเวทีแต่งงานสุดเวอร์, Piazzetta จัตุรัสสุดคึกคักของคาปรี, หรือ Villa Adriana มรดกโลกของ UNESCO ที่กรุงโรม ที่ทีมงานใช้เป็นฉากงานเลี้ยงหรู ทุกสถานที่สะท้อนโลกของ Emily ที่ทั้งสวยลวงตาและเต็มไปด้วยความลับ

·       การเปิดตัวที่สะกดทุกสายตาของ Emily

Emily กลับมาในซีนแรก หลังจากได้รับการปล่อยตัวออกจากคุก ด้วยลุคที่ตั้งใจออกแบบให้ “สะกดทุกสายตา” เธอสวมชุดสูทลาย prison stripes ที่ดีไซเนอร์ Renee Ehrlich Kalfus ร่วมออกแบบกับ Blake Lively โดยตั้งใจให้เป็นการบิดภาพจำของนักโทษ ให้กลายเป็นลุคแฟชั่นสุดเก๋ ซึ่งสะท้อนตัวตนของ Emily ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง หรูหราแต่ท้าทาย กบฏแต่เก๋ มั่นใจแต่มีด้านมืด

·       ชุดเจ้าสาวที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครลืมได้แน่นอน

หนึ่งในซีนแฟชั่นไอคอนิกของเรื่อง คือฉาก Emily ใส่ชุดเจ้าสาวสุดแหวกขนบ ที่ประกอบไปด้วยคอร์เซ็ตลาเท็กซ์สีขาว เลกกิ้ง กระโปรงยักษ์ และเวลยาว 20 ฟุต ที่ทั้ง Blake Lively และดีไซเนอร์ Renee Ehrlich Kalfus ร่วมกันออกแบบเช่นเดียวกับชุดในซีนเปิดตัว โดยต้องการให้ลุคนี้สะท้อน "อำนาจ" และ "แรงดึงดูด" ของ Emily ได้อย่างชัดเจน

·       จากแม่บ้านคอนเนตทิคัตสู่ลุคหรูระดับคาปรี

Stephanie เริ่มเรื่องด้วยลุคเรียบง่ายแบบคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เสื้อคาร์ดิแกน กางเกงเข้ารูป แต่เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของ Emily ที่คาปรี ลุคของเธอก็ค่อย ๆ ถูกยกระดับ เธอไม่ได้ตั้งใจแต่งตัวให้เด่น เพียงแค่พยายามจะตามโลกของ Emily ให้ทัน โดยยังเป็นตัวเองอยู่

·      ความสนุกที่ไม่จำกัดแค่แนวเดียว

นักแสดงและทีมงานยืนยันว่า ภาพยนตร์ภาคนี้ ทั้งตลก ตื่นเต้น ดราม่า และเวอร์วัง ผสมผสานหลากหลายอารมณ์ไว้อย่างลงตัว  พร้อมเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึง