เมื่อจินตนาการอันเปี่ยมล้นของนักเขียนระดับตำนาน แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต ถูกหยิบยกมาดัดแปลงผ่านวิสัยทัศน์ที่ยากจะเลียนแบบของ เดนิส วิลล์เนิฟ สู่ภาพยนตร์มหากาพย์ไซไฟ “Dune” ออกฉายครั้งแรกในปี 2021 ได้รับกระแสเชิงบวกจากนักวิจารณ์และเหล่าคนดูอย่างท่วมท้น ทำรายได้ไปกว่า 402 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Dune บอกเล่าเรื่องราวของ พอล อาทรีเดส (รับบทโดย ทิโมธี ชาลาเมต์) เด็กหนุ่มมากพรสวรรค์ ผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ที่ถูกลิขิตให้มุ่งหน้าตรงสู่เส้นทางแห่งทะเลทรายบน อาร์ราคิส ดาวเคราะห์ที่อันตรายที่สุดในจักรวาล แต่ทว่ากลับอุดมด้วย สไปซ์ เครื่องเทศสรรพคุณวิเศษที่ทุกคนต่างหมายปอง นำไปสู่การทรยศ เกมการเมืองช่วงชิงอำนาจและทรัพยากร และศึกสงครามที่พลิกโฉมหน้าของประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล

เนื่องในวาระที่ภาคต่ออย่าง Dune: Part Two เตรียมพร้อมที่จะเข้าฉายในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ทาง Warner Bros. จึงได้หยิบยก Dune กลับเข้าสู่โปรแกรมฉายอีกครั้ง พร้อมด้วย Featuring a Sneak Peek หรือฟุตเทจสุดพิเศษจากภาคต่อความยาวกว่า 11 นาทีมาให้รับชมกันแบบชัดๆ บนจอยักษ์ เพื่อปลุกกระแสความไฮป์ให้กับแฟนๆ ที่ต่างรอคอยให้ พอล อาทรีเดส กลับมาทวงความยุติธรรมให้กับวงศ์ตระกูล แก้แค้นองค์จักรพรรดิ และบนขยี้เหล่าฮาร์คอนเนนให้สิ้นซาก

แม้ก่อนหน้านี้ผมเองจะมีโอกาสได้รับชม Dune ในโรงภาพยนตร์มากถึง 2 ครั้งด้วยกัน ด้วยระยะเวลาจึงทำให้ภาพความรู้สึกในวันนั้นมันค่อยๆ เลือนลาง แต่การกลับมารับชมอีกครั้ง โดยเฉพาะในระบบ IMAX with Laser ขอบอกเลยว่านี่คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ต่อให้รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็ยังอดไฮป์ไปกับทุกซีนที่เกิดขึ้นไม่ได้จริงๆ

ด้วยเรื่องราวระดับมหากาพย์อันเข้มข้นที่เป็นมาตั้งแต่ต้นฉบับ ทีมนักแสดงมากฝีมือ รวมถึงวิสัยทัศน์ของทีมสร้างไม่ว่าจะเป็นงานภาพ องค์ประกอบศิลป์ และดนตรีประกอบ ทุกสิ่งที่ว่ามาต่างผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งในทุกๆ ครั้งที่ฉากทะเลทรายอันเวิ้งว้างบนดาวอาร์ราคิสก็ดี การปรากฎตัวของหนอนยักษ์ ‘ชาไอฮูลูด’ และฉากอื่นๆ อีกมากมาย นี่คือ Cinematic Experience ที่กลืนเราคนดูให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์นั้นๆ ได้แทบจะในทันที ถือเป็นประสบการณ์ชวนตื่นตาและเหนือกว่าการรับชมผ่านระบบสตรีมมิ่งที่บ้านอย่างแน่นอน ดู(น)อีกก็ได้อีกอย่างแท้จริง