“สุดะ มาซากิ” ตามหาความทรงจำเรียกน้ำตา “ฮาราดะ มิเอโกะ” ใน “A Hundred Flowers ให้รักพาแม่กลับมา”

“สุดะ มาซากิ” ตามหาความทรงจำเรียกน้ำตา “ฮาราดะ มิเอโกะ” ใน “A Hundred Flowers ให้รักพาแม่กลับมา”

“สุดะ มาซากิ” นักแสดงเจ้าของรางวัลนำชายยอดเยี่ยมจากเวที Japan Academy Prize ครั้งที่ 41 เขาเป็นนักแสดงที่เฉิดฉายในผลงานภาพยนตร์มาแล้วมากมาย โดยปีที่แล้วเขารับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง We Made a Beautiful Bouquet ในปีนี้เขายังได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อกับบทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้ A Hundred Flowers ที่เขารับบทเป็น คาไซ อิซึมิ ลูกชายผู้พยายามฟื้นความทรงจำกับแม่ที่สูญเสียความทรงจำ เขาทำงานในค่ายเพลง แต่งงาน และอาศัยอยู่ในโตเกียว เมื่อลูกใกล้คลอดเต็มทีแล้ว วันธรรมดา ๆ ของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากการที่แม่ของเขาเสียความทรงจำไป เขารับบทเป็นลูกชายที่ต้องเผชิญหน้ากับความทรงจำในอดีตที่ถูกผลึกเอาไว้ มีทั้งด้านอ่อนไหวและเข้มแข็ง

“ฮาราดะ มิเอโกะ” นักแสดงแนวหน้าผู้กวาดรางวัลมามากมาย เธอเคยฝากผลงานการแสดงผ่านภาพยนตร์ของผู้กำกับชื่อดัง อาทิเช่น คุโรซาวะ อากิระ, มาสุมุระ ยาซูโซะ, ฟุคาซาคุ คินจิ และอื่น ๆ ในภาพยนตร์เรื่องเธอรับบทเป็น คาไซ ยูริโกะ แม่ผู้เสียความทรงจำทุกสิ่งไป เกิดเหตุการณ์หนึ่งทำให้ ยูริโกะ แม่เลี้ยงเดี่ยวเธอผิดใจกับลูกชาย เธอใช้ความสามารถในการแสดงบทของแม่ที่พยายามจะไปแตะความลับที่อยู่ก้นลึกของความทรงจำของเธอในขณะที่เธอนั้นเสียความทรงจำอยู่

นอกจากนี้ยังได้นักแสดงชื่อดังมากความสามารถอย่าง “นากาซาวะ มาซามิ” มารับบทเป็น คาไซ คาโอริ ภรรยาของ อิซึมิ ที่ทำงานค่ายเพลงเดียวกันและกำลังจะคลอดลูกครั้งแรกในชีวิต และ “นากาเสะ มาซาโตชิ” มารับบทชายที่รู้ “ความลับ”ของ ยูริโกะ และมีความเกี่ยวข้องกับ “เหตุการณ์” นั้นโดยตรง

ภาพยนตร์เรื่อง “A Hundred Flowers ให้รักพาแม่กลับมา” ใช้วิธีการถ่ายทำนี้เป็นหลักใช้การถ่ายทำโดยไม่แบ่งกล้องใดๆ เท่ากับว่าใช้กล้องหนึ่งถ่ายตั้งแต่เริ่มแสดงจนฉากนั้นเสร็จสิ้นทำให้ได้ภาพแบบไม่ขาดตอน ความผิดปกติของ ยูริโกะ และความสับสนทางความคิดของเธอเป็นแกนหลักของเรื่องนี้ จึงใช้การบันทึกภาพนั้นเอาไว้ในหนึ่งคัต ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากสำหรับทั้งนักแสดงและฝ่ายผลิตภาพยนตร์ เป็นผลงานที่ใช้พิสูจน์ทั้งฝีมือการแสดงและฝีมือการถ่ายทำ

เช่นกันในส่วนของบทลูกชายอย่าง อิซึมิ มีฉากที่ต้องนึกถึงความทรงจำวัยเด็กที่ราวกับถูกสาปเอาไว้ การที่จะเก็บภาพนั้นให้ได้ในหนึ่งซีนนั้นมีผลต่ออารมณ์อย่างมาก ภาพยนตร์คือสื่อที่ใช้บันทึกเวลาเอาไว้ เราบันทึกการแสดง แล้วก็บันทึกการถ่ายทำไว้จนเกิดเป็นภาพ “คาวามุระ เกงกิ” เลือกที่จะเผชิญหน้ากับการถ่ายทำภาพยนตร์ในแบบดั้งเดิม การเลือกการถ่ายทำแบบ หนึ่งซีน=หนึ่งคัต เพื่อที่จะถ่ายทอดความทรงจำสุดท้ายให้ออกมางดงามที่สุด

“ผมมีโอกาสได้พบและร่วมงานกับคุณคาวามูระ เกงกิหลายครั้งแล้ว แต่ภาพที่เขาบินไปทั่วโลกเพื่อหาสิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลามันช่างทำให้รู้สึกว่าเขาช่างมีชีวิตชีวา แต่ครั้งแรกที่ผมได้อ่านผลงานนี้ที่เขาเขียนและกำกับเอง ผมตกใจเลยครับ มันเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กๆจริงๆ เรื่องราวความทรงจำที่เลือนลางไปของแม่ลูก ของครอบครัว ที่ตอนผมอ่านนิยายครั้งแรกรู้ตัวอีกทีน้ำตาก็ไหลออกมา ผมหวังว่าภาพยนตร์นี้จะติดอยู่ในความทรงจำของคุณและทำให้วันพรุ่งนี้ของทุกคนดียิ่งขึ้นไป” สุดะ มาซากิ กล่าว

“A Hundred Flowers ให้รักพาแม่กลับมา” 22 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์

 

“สุดะ มาซากิ” ตามหาความทรงจำเรียกน้ำตา “ฮาราดะ มิเอโกะ” ใน “A Hundred Flowers ให้รักพาแม่กลับมา”