
ปลุกชีพตำนาน “ราชาเพลงร็อกแอนด์โรลล์” ให้กลับมาโลดแล่นบนจอเงินอีกครั้งใน “ELVIS”
“ELVIS” ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่พร้อมปลุกชีพตำนานให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ภายใต้การดูแลของ วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส ผ่านวิสัยทัศน์ที่เปี่ยมล้มด้วยจินตนาการของ บาซ เลอร์แมน ผู้กำกับมากฝีมือดีกรีเข้าชิงรางวัล Oscar ที่พร้อมนำพาผู้ชมทุกท่านไปสำรวจเส้นทางชีวิตและดนตรีของ เอลวิส เพรสลีย์ ราชาเพลงร็อกแอนด์โรลล์ ชายผู้สร้างแรงกระเพื่อมสั่นสะเทือนไปทั่ววงการดนตรีในยุค 1950s - 1970s รวมไปถึงเรื่องราวมิตรภาพของแสนสลับซับซ้อนระหว่างเขากับผู้จัดการส่วนตัว นายพันทอม ปาร์คเกอร์ ที่ยาวนานกว่า 20 ปี นำแสดงโดย ออสติน บัตเลอร์ จาก Once Upon a Time in... Hollywood (2019) ร่วมด้วยเจ้าของรางวัล Oscar อย่าง ทอม แฮงค์ส จาก Forrest Gump (1994), Saving Private Ryan (1998) และ Cast Away (2000)
โดย “ELVIS” ได้ถูกรับเลือกให้ทำการฉายรอบปฐมทัศน์ใน เทศกาลหนังเมืองคานส์ ครั้งที่ 75 หรือ 2022 Cannes Film Festival พร้อมสร้างปรากฏการณ์เสียงปรบมือยาวนานถึง 12 นาทีหลังเสร็จสิ้นการฉาย พร้อมด้วยเสียงชื่นชมอีกมากมาย
“นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเอลวิสและนายพันปาร์คเกอร์ เรื่องจริงที่ถ่ายทอดออกมาอย่างงดงามและสร้างสรรค์ มีเพียงบาซ (เลอร์แมน) ที่ทำได้อย่างมีเอกลักษณ์และงดงาม ถ่ายทอดผ่านผู้กำกับฯ ที่ทุ่มทั้งใจและวิญญาณลงไปในหนังเรื่องนี้ ออสติน บัตเลอร์ ดูโดดเด่นมาก ส่วน ทอม แฮงค์ส ก็เหมือนนายพันปาร์คเกอร์จริง ๆ” พริสซิลล่า เพรสลีย์ ภรรยาของ เอลวิส ได้กล่าวไว้
เบื้องหลังแนวคิดในการปลุกชีพ “ELVIS”
“ขณะที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า ‘Elvis’ นี่ก็เป็นเรื่องราวของผู้พันทอม ปาร์คเกอร์ ด้วยเช่นกัน เขาเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดเรื่องราวที่เหลือเชื่อของเรา” ผู้เขียนบทฯ / ผู้กำกับฯ / ผู้อำนวยการสร้างฯ บาซ เลอร์แมน ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับดนตรีของ เอลวิส มิตรภาพอันแสนประหลาด เบื้องหลังความสำเร็จ และการฟันฝ่าในฐานะศิลปิน “ผมอยากบอกว่าผู้พันทอม ปาร์คเกอร์ ไม่เคยเป็นทั้งผู้พัน ทอม หรือปาร์คเกอร์ แต่เป็นตัวละครที่มีความมหัศจรรย์ทุกอย่างในเวลาเดียวกัน เขาคือผู้เสียสละจนค้นพบความยิ่งใหญ่นั้น”
“เอลวิส เพรสลีย์ ในวัย 19 ปี ในยุคพีเรียด อาศัยอยู่ในบ้านเพียงไม่กี่หลังของทูเปโล มิสซิสซิปปี้” ผู้สร้างภาพยนตร์ฯ เล่าต่อ “รายล้อมไปด้วยกลุ่มเพื่อนฝูง เขาหลงใหลเสียงดนตรีพื้นเมืองและดนตรี Pentecostal เขาโตมาพร้อมกับความรักดนตรีคันทรี ปาร์คเกอร์ไม่ใช่คนที่จะฟังดนตรีแนวไหนก็ได้ แต่เขาต้องหยุดชะงักกับอิทธิพลของเอลวิสที่มีต่อผู้ชมวัยรุ่น อย่างที่นายพันกล่าวในเรื่องว่า ‘มันเป็นภาพปฏิกิริยาของผู้คนในงานคาร์นิวัลที่วิเศษมากเท่าที่ผมเคยเห็นมาก่อน’”
บาซ เลอร์แมน กล่าวเสริม “ช่วงกลางยุค 1950 หลายเมืองในอเมริกาเปลี่ยนงานเฉลิมฉลองให้เป็นงานดนตรี ส่วนใหญ่จะเป็นเมืองรอบนอกและทางตะวันตก แต่ปาร์คเกอร์มักมองหาสิ่งที่พิเศษและทำเงินได้มากที่สุด มีเสื้อผ้าสวย ๆ สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชม มีท่าทางที่ไม่ธรรมดา บางสิ่งที่พิเศษอย่างเอลวิส”
แนวคิดเรื่องธุรกิจของปาร์คเกอร์
บาซ เลอร์แมน ชวน ทอม แฮงค์ส เจ้าของรางวัล Oscar มาร่วมงาน เพื่อให้มารับบทเป็น ผู้พันทอม ปาร์คเกอร์ เขาเล่าว่า “ผมไม่เคยร่วมงานกับทอมมาก่อน แต่ผมได้เล่าเรื่องราวและเอาวีดีโอไปให้เขาดูว่าผมคิดภาพแบบไหนเอาไว้ เขาบอกว่า ‘ถ้าคุณต้องการผม ผมก็คือนักแสดงของคุณเลย’ อะไรจะโชคดีขนาดนั้น!”
ทอม แฮงค์ส เล่าถึงปาร์คเกอร์ตัวจริงว่า “เขาเป็นนักธุรกิจที่ทั้งฉลาดและขี้โกง แต่เขาก็เป็นผู้บุกเบิกธุรกิจการแสดงอันยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อน จนกระทั่งมี เอลวิส เพรสลีย์ เขารู้ว่าเอลวิสเป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เขาเห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่ และรู้ว่าไม่ใช่แค่การทำเงินได้อย่างมหาศาลอย่างที่ใครๆ ก็ทำได้”
บาซ เลอร์แมน เปิดเผยในภาพยนตร์ให้เราได้เห็นว่า “เงิน” คือตัวขับเคลื่อนหลักของเรื่องราว ปาร์คเกอร์น่าจะเป็นคนแรกที่มองเห็นเรื่องเงินนอกเหนือจากดนตรี “เขาเล็งเห็นแล้วว่า เอลวิส มีอิทธิพลต่อผู้ฟังขนาดไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน และมันยิ่งใหญ่กว่าที่เขาเคยเห็นในงานฉลอง” ผู้สร้างภาพยนตร์กล่าว “สำหรับ ทอม ปาร์คเกอร์ มันเหมือนงานฉลองอันยิ่งใหญ่ที่เขาเคยเห็นกับตาตัวเอง และเขาต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้”
ปลุกชีพราชาผู้สร้างปรากฏารณ์
สำหรับการปลุกชีพชายที่มีทั้งความเป็นศิลปะและสร้างอิทธิพลแผ่กระจายได้กว้างถึง 4 มุมโลกมายาวนานกว่า 60 ปี ผู้สร้างภาพยนตร์ค้นหาเป็นวงกว้างกว่าจะพบ ออสติน บัตเลอร์ ผู้กำกับ บาซ เลอร์แมน กล่าว “ผมรู้ว่าเราจะทำหนังเรื่องนี้ไม่ได้หากนักแสดงไม่เหมาะสม แล้วเราก็ได้พบกับนักแสดงที่มีการเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีคุณภาพน้ำเสียงที่เหมือนกับนักร้องอย่างไร้ที่ติ และมีคุณสมบัติภายในที่เหมือนกับศิลปิน ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ ออสติน บัตเลอร์ ว่าเขาถ่ายทอดการแสดงได้อย่างโดดเด่นคู่กับ เดนเซล วอชิงตัน ในเรื่อง ‘The Iceman Cometh’ บนบรอดเวย์ รวมถึงผ่านการทดสอบหน้าจออย่างเข้มข้น มีเวิร์คชอปด้านเสียงดนตรีและการแสดง แล้วผมก็รู้ได้ทันทีว่าเราพบคนที่มีสปิริตแห่งความเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของโลกเข้าให้แล้ว”
ออสติน บัตเลอร์ เล่าว่า “สิ่งที่ทำให้ผมเกิดความสนใจเกี่ยวกับคนดังเสมอ คือความเป็นมนุษย์ของเขาที่สำคัญสุดเป็นอย่างแรก เอลวิสมีจุดเริ่มต้นจากการเป็นเด็กที่ไม่มีอะไรเลย จากนั้นกลายเป็นคนที่ชื่อเสียงมากที่สุดบนโลก มันคือความฝันของชาวอเมริกัน เขายังคงครองใจมายาวนานหลายยุคสมัยจนเหมือนเขามีอายุนานนับ 100 ปี ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกที่เขามีอายุได้เพียง 42 ปี”
วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส นำเสนอภาพยนตร์จาก Bazmark Production, Jackal Group Production, Baz Luhrmann Film เรื่อง “ELVIS” 23 มิถุนายน ในโรงภาพยนตร์