เจาะลึกเรื่องราวผ่านบทสัมภาษณ์ของ “ซานิย์ยา ซิดนีย์” และ “เดมี่ ซิงเกิลตัน” สองนักแสดงนำจาก “King Richard”

เจาะลึกเรื่องราวผ่านบทสัมภาษณ์ของ “ซานิย์ยา ซิดนีย์” และ “เดมี่ ซิงเกิลตัน” สองนักแสดงนำจาก “King Richard”

“King Richard คิง ริชาร์ด” ภาพยนตร์ดราม่าชั้นดีโดยฝีมือการกำกับของ เรนัลโด มาร์คัส กรีน จาก Monsters and Men (2018) การันตีคุณภาพด้วยการเข้าชิงรางวัลบนเวทีออสการ์ หรือ The Academy Awards ครั้งที่ 94 ถึง 6 รางวัล ในสาขารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (วิลล์ สมิธ), นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (อันจานู เอลลิส), ลำดับภาพยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และ เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม “Be Alive” ขับร้องโดย บียอนเซ

โดย King Richard หยิบเค้าโครงจากเรื่องจริงที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนทั่วทั้งโลก มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ ริชาร์ด วิลเลียมส์ (วิลล์ สมิธ) คุณพ่อผู้ไม่ย่อท้อต่อการเลี้ยงดู วีนัส วิลเลียมส์ (ซานิย์ยา ซิดนีย์) และ เซเรน่า วิลเลียมส์ (เดมี่ ซิงเกิลตัน) ลูกสาวทั้งสองคนผู้มีพรสวรรค์ทางด้านกีฬา ที่ในอนาคตพวกเธอจะตบเท้าก้าวเข้าสู่การเป็นสองนักกีฬาเทนนิสหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตลอดกาล

บทสัมภาษณ์ ซานิย์ยา ซิดนีย์ นักแสดงผู้รับบท วีนัส วิลเลียมส์

คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับพี่น้องวิลเลียมส์และครอบครัวก่อนมาอ่านบท “King Richard”

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : ฉันดูวีนัสกับเซเรนามาตั้งแต่เด็กค่ะ ฉันรู้ว่าพวกเธอเป็นสาวผิวดำสองคนที่ก้าวเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งสร้างความประทับใจให้ฉันมาก เพราะการได้ดูพวกเธอตอนฉันยังเล็กให้ความรู้สึกว่า “คนที่คล้าย ๆ กับฉันก็ประสบความสำเร็จแบบนี้ได้ สุดยอดเลย” ฉันรู้เรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวของพวกเธอมาบ้างเล็กน้อย รู้ว่าพวกเธออยู่ในครอบครัวใหญ่ นั่นคือสิ่งที่ฉันรู้มาก่อนค่ะ แต่ก็รู้เพิ่มขึ้นหลังจากได้รับบทในหนังเรื่องนี้

มีคนรุ่นหนึ่งที่เติบโตมากับการยกย่องชื่นชมผู้หญิงสองคนนี้และความสำเร็จของพวกเธอ มีเรื่องไหนที่คุณประหลาดใจตอนได้อ่านบทไหมครับ

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : สิ่งที่ฉันประหลาดใจน่าจะเป็นเรื่องมิสเตอร์ริชาร์ดมากกว่าค่ะ เรื่องแผนการของเขาตอนที่พวกเธอยังเป็นเด็ก เพราะฉันเข้าใจดีถึงการมีความฝันตอนอายุห้าขวบและออกไปทำในสิ่งที่คุณรัก...โดยไม่ยอมให้มีใครมาบอกคุณว่า “คุณไปทำอย่างอื่นดีกว่านะ” ฉันจึงเข้าถึงตรงส่วนนี้ได้ และมีบางอย่างที่ริชาร์ดทำให้ฉันนึกถึงพ่อแม่ของตัวเอง พ่อแม่ของฉันคอยดูแลให้ตัวฉันและพี่น้องได้ออกไปทำสิ่งที่พวกเราอยากทำ คอยให้ความรัก และดูแลให้เราได้เติบโต วีนัสกับเซเรนาเลือกเทนนิส ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเธออยากทำและรักที่จะทำ ฉันเข้าถึงได้ตรงนี้ได้ และการที่เขาวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่พวกเธอจะเกิดก็แสดงถึงการอุทิศทุ่มเทอย่างแท้จริง เขามั่นใจว่าลูก ๆ จะต้องเป็นคนพิเศษ... ฉันคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งค่ะ ฉันชอบคุยกับบรรดาพ่อแม่ว่าพวกเขาคิดอะไรบ้างก่อนที่ลูก ๆ จะได้ลืมตาดูโลก เรื่องนี้สำคัญมากสำหรับฉัน

คนทั้งโลกคิดว่าเรารู้จักวีนัส วิลเลียมส์อยู่แล้ว วีนัส วิลเลียมส์ที่คุณรับบทบาทนี้เป็นอย่างไรครับ

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : ฉันรับบทเป็นเด็กสาวที่เงียบขรึม ขี้อาย และทำตัวแปลก ๆ เธอเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง สุดท้ายแล้วเธอก็เป็นเด็กคนหนึ่งค่ะ วีนัสเป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาและฉันก็ยกย่องชื่นชมเธอ แต่พอได้พบเธอ คุณจะรู้ว่าเธอยังมีความเป็นเด็กอยู่เลยค่ะ เธอเป็นคนแบบที่ไปสังสรรค์เฮฮาด้วยกันได้แต่ขณะเดียวกันก็ทำงานแบบมืออาชีพด้วย เธอมีความแข็งแกร่งดุดันเมื่ออยู่ในสนาม แต่ฉันอยากให้ผู้คนเข้าใจด้วยว่าวีนัสมีความเก่งกล้าภายใต้บุคลิกนิ่ง ๆ แต่ขณะเดียวกันเธอก็อาจทำตัวเป็นคนตลก ๆ และสนุกสนานร่าเริงได้ด้วย ฉันเข้าถึงตัวตนของเธอในแง่นี้เพราะฉันเข้าใจดีค่ะ

ตัวคุณก็ดูเป็นคนตลกและร่าเริงเหมือนกัน

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : ใช่เลยค่ะ

นั่นเป็นคำชมนะครับ!

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : ขอบคุณค่ะ

ช่วยเล่าถึงการเตรียมตัวเพื่อรับบทในเรื่องนี้ได้ไหมครับ คุณฝึกอยู่นานทีเดียว ช่วยเล่าให้ฟังสั้นๆ ถึงการเดินทางครั้งนี้ได้ไหม

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : ได้เลยค่ะ ฉันเริ่มเล่นเทนนิสก่อนที่จะได้รับบทนี้เพราะอยากลองดู เริ่มจากการฝึกด้วยมือขวาก่อนเพราะฉันถนัดซ้าย จึงอยากฝึกให้ตัวเองคุ้นเคยกับการใช้มือขวา (วีนัสถนัดขวา) และพอได้ทราบว่าได้รับบทนี้ ฉันก็เริ่มต้นการฝึกทันที ฉันฝึกเทนนิสไปด้วยระหว่างการถ่ายทำจนกระทั่งถ่ายทำเสร็จ ก็เลยเพิ่งได้หยุดฝึกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วนี่เอง เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันเลยค่ะ

คำถามนี้เป็นคำถามหลังไมค์ก็ได้ขึ้นอยู่กับคำตอบของคุณ คุณสนุกกับการเล่นเทนนิสหรือเปล่า

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : สนุกค่ะ ฉันรักเทนนิสมาก เป็นเรื่องจริงเลยที่เขาว่าคนเราอาจตกหลุมรักของบางอย่างได้ และฉันก็ตกหลุมรักเทนนิสจริงๆ ฉันเลยเข้าใจว่าทำไมคนถึงรักเทนนิสกันมากขนาดนี้ เดมี (ซิงเกิลตัน ผู้รับบทเป็นเซเรนา) ก็รู้สึกเหมือนกัน เราอยากไปเล่นเทนนิสด้วยกันตลอด ตอนนี้เธออยู่ที่นี่ (ในลอสแองเจลีส) แล้วเธอก็มักจะทักมาว่า “อยากไปเล่นเทนนิสด้วยกันหน่อยไหม” เราสนิทกันจากการไปเล่นเทนนิสและเราต่างก็รักเทนนิส บางทีฝีมืออาจจะตกไปบ้าง แต่เราก็ยังไปเล่นด้วยกันอยู่ ประมาณว่า “โอ๊ะ นั่นลูกออกนี่…” แต่เราก็ไม่ซีเรียสอะไรกันมากค่ะ

เราทราบมาว่าคุณได้พบวีนัสด้วย เธอช่วยในการรับบทของคุณอย่างไรบ้าง

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : ตอนที่ได้พบวีนัส คำแนะนำแรกที่เธอมอบให้เราคือให้ถ่อมตน เธอบอกว่า “ฉันรู้ว่าพวกหนูจะเติบโตไปอีกไกล จงมีความสุขกับผลสำเร็จที่ออกมา เพราะผลสำเร็จนั้นคือรางวัล คือสิ่งที่เราบรรลุได้ด้วยตัวเอง นั่นคือสิ่งที่เราควรจะภาคภูมิใจ” แล้วเธอก็พูดว่า “ไม่ว่าจะเล่นหนังเรื่องไหน หนูควรจะถือว่ามันเป็นผลสำเร็จ เป็นพรที่หนูได้รับมา” ฉันต้องขอบคุณเธอค่ะเพราะฉันจะจดจำหนังทุกๆ เรื่องที่ได้รับบทและจดจำคำแนะนำของเธอไว้เสมอ “สิ่งที่เราทำคือผลสำเร็จ เราทำงานออกมาเต็มที่แล้วและควรให้เกียรติผลงานนั้น” เธอยังบอกด้วยว่า “ถึงจะเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ฉันก็ยังคงเป็นเด็กอยู่ ฉันเป็นผู้ใหญ่ได้เมื่อจำเป็น ฉันดูแลตัวเองได้” แต่เธอบอกว่า “ฉันยังคงเป็นเด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ เธอออกมาเล่นสนุกตลอดเวลา” ฉันชอบมากค่ะ เธอยังคงเป็นตัวของตัวเองได้เสมอ คำพูดนี้ตรงใจฉันมากเพราะมันตรงกับตัวฉัน เรามีหลายอย่างที่ตรงกัน และฉันรู้สึกว่า “โอ้โห หนูเคยดูคุณแข่งวิมเบิลดัน แล้วตอนนี้เราได้มาคุยกันตัวต่อตัวและพบว่าเรามีหลายอย่างตรงกัน” เป็นเรื่องที่ฉันไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลย

ช่วยพูดถึงการทำงานกับวิลล์ สมิธหน่อยได้ไหมครับ การทำงานกับเขาในฐานะวิลล์ และในฐานะริชาร์ดเป็นอย่างไรบ้าง

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : การทำงานกับวิลล์เป็นประสบการณ์ที่สนุกที่สุดเท่าที่เราเคยได้รับมาเพราะเขาสร้างเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลาค่ะ เราชอบเล่นแกล้งกัน เขาทำให้เราตกใจและต้องคอยระวังหลังอยู่ตลอด อันที่จริงแล้วเขากลายเป็นเพื่อนและครอบครัวของเราไปแล้วค่ะ ซึ่งฉันยินดีมาก ฉันรักและเคารพในตัวเขาเพราะเขาสอนหลายสิ่งหลายอย่างให้กับเรา เขาให้คำแนะนำที่ดีที่สุดแก่เรา คอยบอกให้เรารู้จักขอบคุณทีมงาน เขาจริงจังกับเรื่องนี้มาก เขาเยี่ยมมากเมื่ออยู่ในกองถ่าย เขาคอยทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของทีม และฉันเองก็อยากทำแบบนั้น ในหนังทุกๆ เรื่องที่ฉันเล่น ฉันอยากจะระลึกไว้เสมอว่าฉันไม่ใช่คนคนเดียวในหนัง ฉันอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเราล้วนทำสิ่งเดียวกัน เราต่างทำงานหนักและสร้างสิ่งที่พิเศษสุดขึ้นมา ดังนั้นเราทุกคนควรภูมิใจในตัวเอง ความใจกว้างของเขาเผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน นั่นเป็นสิ่งที่ฉันชอบในตัวเขาค่ะ

ส่วนริชาร์ดนั้นเป็นคนมุ่งมั่นขณะเดียวกันก็เข้มงวดมากด้วย แต่ความเข้มงวดนั้นมาจากความรักซึ่งฉันเข้าใจเป็นอย่างดี วีนัส เซเรนา และริชาร์ดใกล้ชิดกันมากและเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะวีนัสกับริชาร์ดนั้น... เธอเข้าใจพ่อของเธอดี เธอเข้าใจว่าเขาพยายามทำอะไร และเธอมักจะพูดว่า “โอเค ฉันเชื่อมั่นในกระบวนการของพ่อ เพราะพ่อรู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับฉัน” การได้เห็นวิลล์รับบทเป็นริชาร์ดนั้นพิเศษมาก คือเขาดูเป็นพ่อไปจนถึงท่วงท่าการเดิน วิธีการพูดจา เขากลายเป็นพ่อของเราไปเลย และเขาอาจจะพูดว่า “วีนัส ให้พ่อดูหน่อยซิว่าลูกทำท่ายืนแบบเปิดเป็นยังไง” อะไรแบบนั้น แล้วฉันก็จะคิดว่า “พ่อ ปล่อยให้หนูเล่นเถอะน่า” มักจะเป็นแบบนี้ แต่ขณะเดียวกันเราก็เข้าใจกันดี มันเยี่ยมมากเพราะเราได้สร้างความสัมพันธ์แบบเดียวกันกับวีนัสและริชาร์ดเลยค่ะ

และคุณก็ได้สร้างความผูกพันนี้กับเดมี ซิงเกิลตันที่รับบทเป็นเซเรนาด้วย

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : แน่นอนค่ะ เธอเป็นเซเรนาให้ตัวละครวีนัสของฉัน ความผูกพันระหว่างเราเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะวีนัสกับเซเรนาก็ยังแยกจากกันไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ หลังจากเราได้บทราวอาทิตย์หนึ่ง มิสเตอร์เรก็บอกมาว่า “นี่เบอร์ของเดมีนะ โทรศัพท์และส่งข้อความไปหาเธอด้วย หนูเป็นวีนัส เธอเป็นน้องสาวของหนู ดูแลเธอด้วย” ฉันก็คิดว่า “โอเค นั่นคืองานของฉัน ฉันจะทำตามนั้น” เดมีกับฉันคุยกันเป็นเดือนๆ จนกระทั่งเธอเดินทางมาที่นี่ แล้วพอได้มาพบกันเราก็กลายเป็นแบบนี้ (ประสานมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกัน) เราถูกล็อคเข้าด้วยกัน ตัวติดกันตลอด เรามีหลายสิ่งหลายอย่างเหมือนกัน ตอนที่เธอมาขอคำแนะนำจากฉัน ฉันรู้สึกเหมือนให้คำแนะนำน้องสาว บางสิ่งที่เธอได้พบเป็นสิ่งที่ฉันเพิ่งเจอมาเมื่อปีก่อน ฉันจึงเข้าใจเธอดี เราเปิดใจให้กัน เธอเป็นน้องสาวของฉันจริงๆ และเราได้ผ่านหลายสิ่งหลายอย่างมาด้วยกัน เราดีใจมากที่ได้ผ่านประสบการณ์นี้มาด้วยกัน กลายมาเป็นคนรักเทนนิสเหมือนกัน เล่นหนังที่สุดยอดด้วยกัน และเราคุยกันว่า “ลูก ๆ ของเราจะได้คุยกันเรื่องที่เราเคยทำงานด้วยกัน และลูก ๆ ของเราจะต้องสนิทกันด้วย” นั่นคือเป้าหมายค่ะ เธอเป็นน้องสาวที่ฉันจะรักและคอยดูแลตลอดไป

คุณพูดถึงมิสเตอร์เร ซึ่งก็คือผู้กำกับ เรนัลโด มาร์คัส กรีน การทำงานกับเขาเป็นอย่างไรบ้างครับ

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : มิสเตอร์เรเจ๋งมากค่ะ เจ๋งแบบสุดยอดไปเลย สิ่งที่ฉันชอบคือเขาปฏิบัติต่อฉันเหมือนเป็นศิลปิน เขาให้เราได้สำรวจ เป็นครั้งแรกของฉันและของเดมีที่จะได้รับบทเป็นคนที่มีชีวิตอยู่จริง ๆ และเป็นคนเปลี่ยนแปลงโลก เลยเหมือนกับว่า “ไม่กดดันกันนะ แต่นี่คือสิ่งที่เราอยากให้คุณทำ ไม่กดดัน” แล้วฉันก็คิดว่า “โอเค เอางี้ละกัน ฉันจะให้ความเป็นศิลปินในตัวฉันได้ทำงาน ฉันมีผู้กำกับที่เก่งอยู่แล้ว มาดูกันว่าเราทำอะไรได้บ้าง” ทุก ๆ วันเป็นความท้าทายที่น่าทึ่งและเราก็ได้พบองค์ประกอบที่แตกต่างออกไปเสมอ มิสเตอร์เรมักจะพูดว่า “ให้ตายเถอะ น่าขนลุกจริง ๆ พวกหนูเหมือนเปี๊ยบเลย” นั่นเป็นคำชมนะคะ เราสนิทกันมาก ฉันรักครอบครัวของเขา เขาเป็นคนที่น่าทึ่ง ฉันรักมิสเตอร์เรมากจริงๆ เขาเจ๋ง เป็นผู้กำกับที่ยอดเยี่ยม เก่งมากและน่าทึ่งมาก

แบบสุดยอดไปเลย

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : ใช่ค่ะ แบบสุดยอดไปเลย

ถ้าคุณได้คุยกับคนที่ไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับวีนัสและเซเรนา วิลเลียมส์และครอบครัว... คุณจะเล่าถึงหนังเรื่องนี้ให้พวกเขาฟังอย่างไร คุณหวังว่าพวกเขาจะได้สัมผัสอะไรจากการดูหนังเรื่องนี้

ซานิย์ยา ซิดนีย์ : ฉันหวังว่าพวกเขาจะออกจากโรงไปพร้อมกับความคิดที่ว่า “ว้าว ฉันทำอะไรก็ได้ที่ตั้งใจที่จะทำ มันง่ายมากถ้าคุณทุ่มเทจิตใจให้มันจริง ๆ” สำหรับฉันแล้ว ถ้าคุณรักอะไรสักอย่าง อย่าทิ้งมันไป ทำต่อไปเรื่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ เพราะเมื่อคุณทำอะไรสำเร็จสักอย่างแล้ว ความสำเร็จนั้นจะอยู่ในใจคุณและฉันจะพูดกับตัวเองได้ว่า “ว้าว นี่คือสิ่งที่ฉันอยากจะทำ และฉันทำได้ดีด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าฉันจะเก่งเรื่องนี้ ฉันก็จะต้องทำสิ่งนี้ไปตลอดชีวิต ฉันต้องทำให้โลกรู้จักชื่อของฉันให้ได้ ฉันต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ให้ได้ ฉันจะต้องเป็นคนเบิกทาง ช่วยชีวิต และช่วยเหลือผู้คน” นั่นคือสิ่งที่ฉันหวัง และฉันหวังด้วยว่าคนรุ่นใหม่ ๆ จะรู้จักชื่อของวีนัสและเซเรนาหลังจากนี้ เพราะเธอเป็นคนเบิกทางให้ฉัน แม่ของฉัน พี่น้องของฉัน และผู้คนมากมายทั่วโลก และมีเด็กเล็ก ๆ ที่บอกว่า “โอ้ ฉันไม่รู้มาก่อนว่าเซเรนา วิลเลียมส์เป็นใคร วีนัส วิลเลียมส์เป็นใคร” และฉันมองว่า “เอาละ พวกเธอจะได้รู้เรื่องราวที่ไม่ธรรมดาของคนสองคนนี้ และผู้หญิงสองคนนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ๆ ด้วย” นั่นคือสิ่งที่ฉันหวังไว้ค่ะ

บทสัมภาษณ์ เดมี ซิงเกิลตัน นักแสดงผู้รับบท เซเรนา วิลเลียมส์

คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับครอบครัววิลเลียมส์ตอนที่มาร่วมงานในหนังเรื่องนี้ ก่อนที่จะได้อ่านบท “King Richard”

เดมี ซิงเกิลตัน : ทั้งชีวิตนี้ฉันมองว่าเซเรนาและวิลเลียมเป็นบุคคลตัวอย่างในแวดวงเทนนิส ฉันรู้จักพวกเธอและรู้ว่าพวกเธอยิ่งใหญ่แค่ไหน ฉันเป็นแฟนของพวกเธอค่ะ พวกเธอเป็นผู้หญิงที่ฉันยึดถือเป็นแบบอย่างจนถึงทุกวันนี้ ส่วนเรื่องที่ว่าพวกเธอเติบโตมาอย่างไรและผ่านอะไรมาบ้างนั้นฉันไม่ได้รู้มากนัก ฉันไม่รู้ว่าพวกเธอต้องต่อสู้กับอะไรและผ่านอะไรมาบ้างเมื่อตอนเป็นเด็ก นั่นคือสิ่งที่ฉันได้รู้จากการทำงานในหนังเรื่องนี้

ช่วยเล่าให้ฟังได้ไหมครับว่า “King Richard” เกี่ยวกับอะไร คุณจะอธิบายถึงเรื่องนี้อย่างไร

เดมี ซิงเกิลตัน : “King Richard” เกี่ยวกับ ริชาร์ด วิลเลียมส์ ซึ่งเป็นพ่อของ เซเรนา และ วีนัส วิลเลียมส์ รวมถึงการวางแผนของเขาเพื่อให้พวกเธอประสบความสำเร็จ แล้วก็ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวอยู่ในหนังเรื่องนี้ด้วย เป็นการแสดงให้เห็นว่าครอบครัวสำคัญมากแค่ไหน ฉันเชื่อว่าถ้าไม่มีครอบครัว เซเรนาและวีนัสก็จะไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ พวกเธอเก่งอยู่แล้ว พวกเธอมีความสามารถอยู่แล้ว แต่ในแวดวงกีฬาอย่างกีฬาเทนนิสในสมัยก่อนมีแต่นักกีฬาคนผิวขาวเป็นส่วนใหญ่และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เด็กผู้หญิงผิวดำสองคนจะก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ได้ด้วยภูมิหลังแบบนี้ ฉันมองว่าถ้าไม่ได้ครอบครัวคอยสนับสนุน คงยากที่พวกเธอจะได้มาอยู่ตรงจุดนี้ในปัจจุบัน

สำหรับคุณอะไรที่น่าประหลาดใจที่สุดใน “King Richard”

เดมี ซิงเกิลตัน : ฉันคิดว่าสิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือการมีส่วนร่วมของทุกคนในครอบครัว ไม่ใช่แค่พ่อ แม่ หรือพี่น้องคนใดคนหนึ่งแต่เป็นทั้งครอบครัว แม้กระทั่งตอนซ้อม พวกพี่ ๆ น้อง ๆ ก็จะอยู่ในสนามด้วย คอยช่วยเหลือ ช่วยวอร์มร่างกาย แขวนป้ายให้กำลังใจ เก็บลูกเทนนิสให้ พวกเธอมาถึงจุดนี้ได้ด้วยการทำงานกันเป็นทีมซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ฉันไม่รู้ค่ะ แต่ก่อนฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเธอมีพี่น้องคนอื่นด้วย

ทุกคนบนโลกรู้ว่าเซเรนา วิลเลียมส์เป็นใคร แต่เซเรนา วิลเลียมส์ที่คุณเล่นในหนังเรื่องนี้เป็นใครครับ

เดมี ซิงเกิลตัน : ฉันเล่นเป็น เซเรนา วิลเลียมส์ วัยเด็ก สมัยที่เธอยังคงค้นหาว่าตัวเองเป็นใคร ในตอนนั้นพี่สาวของเธอเริ่มเป็นที่จับตามองแต่ตัวเธอเองยังไปไม่ถึงจุดนั้น และเธอก็พยายามที่จะพิสูจน์กับทุกคนว่าเธอมีความสามารถและความพร้อมไม่แพ้พี่สาว เธอก็เป็นที่หนึ่งได้เหมือนกัน ฉันเป็นเซเรนา วิลเลียมส์คนนั้นค่ะ

เล่าให้ฟังหน่อยครับว่าคุณเตรียมตัวอย่างไร ได้ข่าวว่าคุณฝึกซ้อมนานมาก

เดมี ซิงเกิลตัน : นอกจากการฝึกเล่นเทนนิสซึ่งยากมากในตอนแรก เพื่อที่จะเข้าใจความคิดและตัวตนของเซเรนาเพิ่มขึ้น ฉันก็เลยค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตและ YouTube แล้วหาวิดีโอตอนเธอยังเป็นเด็กอยู่เท่าที่จะทำได้ ตอนนี้มีวิดีโอของเธอตอนเป็นผู้ใหญ่อยู่เป็นร้อย ๆ แต่การจะหาวิดีโอตอนเธอเป็นเด็กจะยากกว่าหน่อย ฉันดูวิดีโอพวกนั้นแล้วเรียนรู้ท่าทางเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เธอทำเพื่อให้ทุกอย่างดูสมจริงมากที่สุด อย่างเช่นเวลาเธอหัวเราะ ฉันว่าเธอหัวเราะได้สนุกสนานและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นั่นเป็นสิ่งที่ฉันพยายามจะใส่ลงมาในหนังด้วย รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับบรรดาพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกวันนี้พวกเธอก็ยังสนิทสนมกันและเราต้องแสดงความสัมพันธ์นี้ออกมาในหนังด้วย

เล่าให้ฟังถึงการพบกับเซเรนาหน่อยได้ไหมครับ เธอได้มีส่วนช่วยในการแสดงของคุณอย่างไรบ้าง

เดมี ซิงเกิลตัน : ครั้งแรกที่ฉันพบเธอจริง ๆ แล้วคือตอนที่ฉันรับบทเป็นเธอในโฆษณาซูเปอร์โบวล์ เป็นซูเปอร์โบวล์ปี 2019 แต่โฆษณาถ่ายทำในปี 2018 เธอยุ่งมาก เธอกำลังจะต้องไปถ่ายทำอะไรต่อสักอย่าง ก็เลยได้แต่ทักทายกันอะไรแบบนั้น เรายังไม่ได้คุยกันเลยค่ะ

แต่พอฉันได้พบเธอเพื่อมารับบทใน “King Richard” เธอกับวีนัสแวะมาที่กองถ่ายและเซอร์ไพรส์พวกเราทุกคน ตอนนั้นฉันตื่นเต้นมาก (หัวเราะ) ฉันกังวลมากเพราะเอาแต่คิดว่า “เซเรนากับวีนัส วิลเลียมส์มาที่นี่ แล้วพวกเธอคือคนที่เรากำลังรับบทอยู่นะ” เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับฉันกับซาไนอา แต่หลังจากเราถ่ายทำฉากที่พวกเธอมาดูเสร็จแล้ว เราก็ได้คุยกัน พวกเธอบอกว่าตื่นเต้นแทนเราและภูมิใจในตัวเรามากแค่ไหน และคำพูดนี้ก็มีความหมายต่อฉันมาก ช่วยให้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ

พวกเธอคุยกับเราเหมือนเราเป็นพวกเธอจริง ๆ … มีจุดหนึ่งที่เซเรนาพูดว่า “หนูจะได้เดตกับหนุ่มคนนี้ เราเรียกเขาว่า พ่อหนุ่มคอตัน... เขาไม่ชอบฉันหรอก” อะไรแบบนั้น “ถ้างั้นก็อย่าไปชอบเขาสิ!” มันตลกมาก ๆ เลย บทสนทนาอาจไม่ใช่แบบนี้เป๊ะ ๆ แต่มันเป็นอะไรประมาณนี้แล้วก็ตลกมาก ๆ สิ่งนี้ช่วยฉันได้มากเพราะมันแสดงให้เห็นว่าตัวจริงของพวกเธอก็ออกจะตลกและบ๊อง ๆ เราได้เห็นเซเรนาและวีนัสตอนที่เป็นนักกีฬาจอมโหดอยู่ในสนาม แต่พวกเธอใจดีมาก ๆ เมื่ออยู่นอกสนามค่ะ

พูดถึงคนที่ใจดีมาก ๆ คุณช่วยเล่าถึงการทำงานกับ วิลล์ สมิธ ได้ไหมครับ

เดมี ซิงเกิลตัน : อ้อ นั่นเป็นเหมือนฝันเลยค่ะ! การได้ทำงานกับมิสเตอร์วิลล์เหมือนฝันที่เป็นจริงเลย เขาเป็นนักแสดงแถวหน้าของยุค แต่เขาทำตัวเหมือนคนธรรมดาๆ เขาติดดินมาก ๆ ตลกมากด้วย

สิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับเขาคือการแกล้งเขาเนี่ยไม่ง่ายเลย ตอนอยู่ในกองถ่ายเราชอบเล่นแกล้งกัน เราจะแอบย่องเข้าไปทำให้เขาตกใจแต่ไม่เคยได้ผลเลย ต่อมาเราถึงได้รู้ว่าพ่อของเขาอยู่ในกองทัพ และพ่อก็สอนให้เขาและพี่ ๆ น้อง ๆ ต้องไม่สะดุ้งหรือตื่นตกใจเวลาที่รู้สึกกลัว ต้องนิ่งและสงบสำรวมให้มากที่สุด เพราะฉะนั้นซาไนอากับฉัน รวมถึงเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่พยายามทำให้เขาตกใจก็เลยได้แต่บ่นว่า “เฮ้อ แย่จัง” เพราะทำยังไงวิลล์ก็ไม่ตกใจ แต่เขาน่ะทำให้เราตกใจตลอดเลย ทุกคนกรีดร้องเสียงดังกันตลอด สนุกมากจริง ๆ ค่ะ เราสนุกที่ได้ทำงานร่วมกับวิลล์และเขาก็คอยดูแลให้ฉันรู้สึกคุ้นเคยและมีช่วงเวลาที่ดีในกองถ่าย

คุณกับ ซานิย์ยา ซิดนีย์ ซึ่งเล่นเป็นวีนัสหรือพี่สาวของคุณในเรื่องดูเหมือนพี่น้องกันจริง ๆ เลยบนจอ พวกคุณดูผูกพันกันจริง ๆ คุณสร้างความผูกพันนั้นขึ้นมาอย่างไร

เดมี ซิงเกิลตัน : มิสเตอร์เรย์ ผู้กำกับของเรา มองว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราจะต้องผูกพันกันจริง ๆ เพราะฉะนั้นทันทีที่เรารู้ว่าได้รับบทนี้ เขาก็ให้เราติดต่อกันและเราก็เริ่มส่งข้อความหากัน เรายังไม่ได้สนิทกันตั้งแต่ตอนนั้น แต่เราก็ทำความรู้จักกันไว้และคอยทักทายกันอยู่เรื่อย ๆ ว่า “ไง เธอเป็นไงบ้าง” แต่พอเริ่มช่วงพรีโพรดักชันและเริ่มถ่ายทำกัน เราก็ได้ใช้เวลาด้วยกัน ไปช็อปปิงและใช้เวลาสังสรรค์อยู่ด้วยกัน จุดนั้นเองที่เราเริ่มผูกพันกันและเป็นเพื่อนสนิทกันมานับแต่นั้น ฉันชอบซานิย์ยามากค่ะ ก่อนมาให้สัมภาษณ์ฉันก็เพิ่งส่งข้อความไปหาเธอ

และเธอบอกว่าพวกคุณยังเล่นเทนนิสกันอยู่

เดมี ซิงเกิลตัน : ใช่ค่ะ เรายังเล่นอยู่

เยี่ยมเลย มาพูดถึงมิสเตอร์เรย์กันบ้าง เขาเป็นผู้กำกับที่น่าทึ่งคนหนึ่งเลย ช่วยเล่าถึงการทำงานกับผู้กำกับมากความสามารถคนนี้ได้ไหมครับ

เดมี ซิงเกิลตัน : เขาน่าทึ่งและเก่งมากจริงๆ ค่ะ หนังคงไม่มีทางออกมาเป็นแบบนี้ได้ถ้าขาดเขา และฉันก็ต้องขอบคุณที่ได้มีโอกาสพบเขาด้วย เขาเป็นคนตลกมากๆ มีมุกภายในเยอะแยะระหว่างนักแสดงกับผู้กำกับ... มิสเตอร์เรย์ มิสเตอร์วิลล์ ทีมนักแสดงทั้งหมด เราเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่และฉันก็ยินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกๆ คนในหนังเรื่องนี้ ฉันต้องขอบคุณทุกคนเลยค่ะ

อันจานู เอลลิส เล่นเป็นแม่ของคุณ การทำงานกับเธอเป็นอย่างไรบ้างครับ

เดมี ซิงเกิลตัน : การทำงานกับมิสอันจานูก็เป็นช่วงเวลาที่น่าทึ่งค่ะ ฉันได้รับความรู้จากเธอ จากการทำงานกับเธอ ความสุขุมของเธอเมื่ออยู่ในกองถ่ายและการที่เธอไม่กลัวที่จะบอกว่าเธอคิดอย่างไรเกี่ยวกับตัวละครที่เธอเล่น มีอยู่ฉากหนึ่งที่ฉันไม่แน่ใจว่าเซเรนาจะพูดแบบนี้หรือทำแบบนั้นหรือเปล่า ฉันก็เลยไปปรึกษาเธอเพราะฉันเชื่อใจเธอ เธอบอกฉันว่า “หนูบอกคนอื่นได้นะว่านี่เป็นตัวละครของหนูและหนูน่าจะรู้ดีที่สุดเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ เพราะฉะนั้นถ้ารู้สึกว่าแบบนี้มันยังไม่ใช่ หนูก็ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง” เธอช่วยฉันได้จริงๆ ในตอนนั้นและทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันสามารถแสดงความคิดเห็นออกมาได้เมื่ออยู่ในกองถ่ายเพื่อตัวฉันเองและเพื่อตัวละครที่ฉันเล่นด้วย

เราทราบมาว่าบางครั้งก็มีการด้นสดด้วย การทำงานส่วนนี้เป็นอย่างไรครับ

เดมี ซิงเกิลตัน : เวลาที่เล่นแบบด้นสด มันเหมือนกับเราทำไปตามความรู้สึก อย่างที่ฉันบอกค่ะ เราเป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ เพราะฉะนั้นการด้นสดส่วนใหญ่ก็เหมือนเวลาเราอยู่ด้วยกันแบบเป็นครอบครัว ถ้ามันออกมาโอเค เราจะไม่คิดเยอะเกินไป เราแค่ปล่อยให้มันไหลไปและถ่ายทำออกมา...มันจึงดูจริงมากๆ เราจะไม่มาคิดหรือวางแผนเอาไว้ก่อน เป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ อย่างเช่นมีภาพตอนที่มิสเตอร์วิลล์เข็นรถเข็นเทนนิสที่มีฉันกับซาไนอานั่งอยู่ นั่นก็ไม่ได้อยู่ในบท เพียงแต่มันเกิดขึ้นเองไปตามธรรมชาติ

คุณคิดว่าผู้ชมจะได้รับอะไรจากหนังเรื่องนี้ และคุณอยากมอบอะไรให้ผู้ชมหนังเรื่องนี้

เดมี ซิงเกิลตัน : ฉันคิดว่าสาระสำคัญของหนังก็คือความสำคัญของระบบสนับสนุนที่เข้มแข็งและความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว อย่างที่ฉันบอก ฉันว่าเซเรนากับวีนัสคงไม่ได้มาถึงจุดนี้ถ้าขาดครอบครัว ทุกสิ่งที่พวกเธอต้องเผชิญมาในวัยเด็กและการฝ่าฟันเพื่อก้าวเป็นที่หนึ่งเป็นสิ่งที่คนคนเดียวคงรับไม่ไหวถ้าขาดการสนับสนุนจากครอบครัว และการมีระบบสนับสนุนที่เข้มแข็งนั้นสำคัญมาก นอกจากนี้คือจงเป็นคนใจกว้างและถ่อมตน สิ่งนี้สำคัญมากสำหรับริชาร์ด ความถ่อมตนและความใจกว้าง

คุณก็เป็นคนถ่อมตน ใจกว้าง และมีความสามารถมากด้วย...

เดมี ซิงเกิลตัน : ขอบคุณค่ะ

สนุกมากที่ได้คุยกับคุณวันนี้และหวังว่าคุณจะประสบความสำเร็จ เราคงจะได้คุยกันอีกนะ

เดมี ซิงเกิลตัน : ค่ะ หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ขอบคุณค่ะ

โดย King Richard คือผลงานการกำกับโดย เรนัลโด มาร์คัส กรีน จาก Monsters and Men (2018) นำแสดงโดย วิล สมิธ จาก Ali (2001), The Pursuit of Happyness (2006) และ Bad Boys for Life (2020) นักแสดงมากฝีมือ ผู้เคยเข้าชิงรางวัล Oscar มาแล้วถึง 2 ครั้ง, อันจานู เอลลิส จาก If Beale Street Could Talk (2018) รับบท ออราซีน แบรนดี้ วิลเลียมส์ ภรรยาของริชาร์ด, ซานิย์ยา ซิดนีย์ จาก Hidden Figures (2016) รับบท วีนัส วิลเลียมส์, เดมี่ ซิงเกิลตัน จาก Godfather of Harlem (2019) รับบท เซเรน่า วิลเลียมส์ ร่วมด้วย โทนี่ โกลด์วิน จาก Divergent (2015-2017) รับบท โคชพอล โคเฮน และ จอน เบิร์นธัล จาก Ford v Ferrari (2019) รับบท โคช ริค แมคซี่

วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส เสนอเรื่องราวที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ เชิญชวนให้ซาบซึ้งไปกับพลังของครอบครัว ความพยายาม และความเชื่อมั่นที่นำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จ ใน “King Richard คิง ริชาร์ด” ร่วมพิสูจน์เส้นทางสู่บัลลังก์ของ “วีนัส” และ “เซเรน่า” พร้อมกัน 16 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์

 

เจาะลึกเรื่องราวผ่านบทสัมภาษณ์ของ “ซานิย์ยา ซิดนีย์” และ “เดมี่ ซิงเกิลตัน” สองนักแสดงนำจาก “King Richard” ดีกรีเข้าชิงรางวัลบนเวทีออสการ์ หรือ The Academy Awards ครั้งที่ 94 ถึง 6 สาขา