“The Matrix Resurrections” หรือ “เดอะ เมทริกซ์ เรเชอเร็คชั่นส์” มหากาพย์ภาพยนตร์แอคชั่น-ไซไฟ แฝงไว้ด้วยปรัชญาชวนให้ขบคิด ที่แฟน ๆ ทั่วโลกต่างรอคอยมานานกว่า 2 ทศวรรษ ผลงานลำดับที่ 4 ของแฟรนไชส์ที่เคยพลิกโฉมหน้าของวงการภาพยนตร์ ภายใต้วิสัยทัศน์มากด้วยจินตนาการของ ลาน่า วาโชว์สกี้ คืนชีพไอคอนิคระดับตำนานอย่าง นีโอ, ทรีนิตี้ และ มอร์เฟียส ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ควบคู่ไปกับการตีความโลกของเมทริกซ์ให้ต่างไปจากเดิม พร้อมสร้างคำจำกัดความใหม่ให้กับเรื่องราวในครั้งนี้

โดย The Matrix Resurrections เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใน The Matrix (1999), The Matrix Reloaded (2003) และ The Matrix Revolutions (2003) เมื่อ โธมัส แอนเดอร์สัน หรือ นีโอ (คีอานู รีฟส์) โปรแกรมเมอร์มากความสามารถที่กำลังประสบปัญหาด้านความทรงจำ ส่งผลให้การใช้ชีวิตของเราเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย จนกระทั่งเขาได้พบกับ ทิฟฟานี่ (แคร์รี่-แอน มอส) โดยบังเอิญ ภาพความทรงจำในอดีตที่เคยพร่าเลือนก็ได้หวนคืนสู่ความชัดเจนอีกครั้ง และมันก็ได้นำพานีโอไปสู่การต่อสู้ครั้งใหม่ที่จะปฏิวัติโลกแห่งความเป็นจริงของเขาไปตลอดกาล

คีอานู รีฟส์ และ แคร์รี่-แอน มอส หวนคืนสู่บทบาทของ นีโอ และ ทรีนิตี้ ในรอบเกือบ 20 ปี พร้อมด้วยทีมนักแสดงมากความสามารถ เริ่มที่ ยาห์ยา อับดุล-มาทีนที่ 2 (Candyman, Aquaman), เจสสิก้า เฮนวิค (Iron Fist, Star Wars: Episode VII – The Force Awakens), โจนาธาน กรอฟฟ์ (Hamilton, Mindhunter), นีล แพทริค แฮร์ริส (Gone Girl), ปริยังกา โจปรา โจนาส (Quantico), คริสตินา ริชชี (Escaping the Madhouse: The Nellie Bly Story, The Lizzie Borden Chronicles), เทลม่า ฮอปกินส์ (Dead to Me), เอเรนดิร่า อิบาร์รา (Sense8, Ingobernable), โทบี้ ออนวูเมียร์ (Empire), แม็กซ์ ไรเมลต์ (Sense8), ไบรอัน เจ. สมิธ (Sense8, Treadstone) และ จาดา พินเค็ตต์ สมิธ (Angel Has Fallen, Gotham)

และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนหวนคืนสู่โลกแห่งเมทริกซ์กันอีกครั้ง เรามาเข้าคอร์สติวเข้มไปกับเรื่องราวเบื้องหลังการถ่ายทำของ The Matrix Resurrections เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากเหตุการณ์จริงที่คุณยังไม่รู้ เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับการรับชมกันดีกว่าครับ

เริ่มต้นที่ ข้อแรก : สำหรับฉากขับรถไล่ล่าช่วงค่ำคืนใจกลางเมืองซานฟรานซิสโกใน The Matrix Resurrections กองถ่ายต้องดูแลความปลอดภัยระหว่างถ่ายทำเป็นระยะทาง 12 ช่วงตึก เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้

ข้อที่สอง : ในกองถ่าย The Matrix Resurrections มีการใช้กล้อง Red Ranger รวมไปถึงโมเดลใหม่ของกล้องที่มีชื่อว่า Komodo ถ่ายทำ โดยระหว่างถ่ายทำฉากต่อสู้ฉากหนึ่ง กล้อง Komodo มีเหตุจำเป็นที่ต้องเข้าใกล้รถที่ถูกไฟไหม้ ความร้อนที่เกิดขึ้นส่งผลให้ตัวกล้องละลาย แต่โชคดีที่ทีมงานสามารถกู้ข้อมูลภาพฟุตเทจที่อยู่ภายในกล้องได้

ข้อที่สาม : วันหนึ่งระหว่างการถ่ายทำบนถนน Montgomery Street ของซาน ฟรานซิสโก ระหว่างที่ คีอานู รีฟส์ เดินออกจากฉากที่กำลังถ่ายทำอยู่ เมื่อเขามองขึ้นไปบนตึกออฟฟิศที่อยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม บนหน้าต่างของออฟฟิศด้านบนมีกระดาษโน้ตแปะเป็นคำสะกดเอาไว้ว่า “เรารักคีอานู”

ข้อที่สี่ : ฉากร้านกาแฟ The Simulatte ที่ตัวละคร โธมัส แอนเดอร์สัน ของ คีอานู รีฟส์ พบนัดเจอก้บเพื่อนร่วมงานของเขาบ่อย ๆ ภายในเรื่อง สถานที่จริงของฉากนี้คือร้าน Joe and the Juice ที่ตกแต่งขึ้นมาใหม่ โดยโลโก้ร้าน The Simulatte เป็นผลงานออกแบบของ ลาน่า วาโชว์สกี้ ผู้กำกับ มือเขียนบท และผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้

ข้อที่ห้า : ใน The Matrix Resurrections มีไข่อีสต์เตอร์ใบหน้าของผู้คนมากมาย ประกอบด้วย จอห์น เกต้า ผู้คิดค้นเทคนิควิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ที่ใช้ใน The Matrix (1999) ซึ่งส่งผลให้เขาได้รับรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่องนี้, คิม ไลเบรรี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ใน The Matrix Reloaded (2003) และ The Matrix Revolutions (2003) อีกด้วย, ลอนดอน บรีด นายกเทศมนตรีซานฟรานซิสโก และ ทอม ฮาร์ดี้ นักแสดงมากความสามารถ

ข้อที่หก : ตึกที่ คีอานู รีฟส์ และ แคร์รี่-แอน มอส กระโดดพุ่งออกไปดังที่ปรากฎในตัวอย่างภาพยนตร์ มีความสูงถึง 43 ชั้น 565 ฟีต ซึ่งเป็นตึกบนถนน Montgomery Street กลางเมืองซานฟรานซิสโกที่สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำบริเวณสะพานโกลเด้นและเส้นขอบฟ้าได้อย่างสวบงาม โดย ลาน่า วาโชว์สกี้ เลือกถ่ายทำฉากนี้ในช่วงที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น 

ข้อที่เจ็ด : สำหรับการเตรียมอุปกรณ์ของฉากการต่อสู้สำคัญภายในเรื่อง ทางทีมงานได้มีการขึงสายเคเบิลจากจุดที่ต้องกระโดดจากจุดหนึ่งไปยังดาดฟ้าของตึกที่อยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องอาศัยโดรนและลงมือทำในระหว่างช่วงตี 5 ถึง 6 โมงเช้า โดยมีการใช้เครื่องยก 4 ตัวสำหรับควบคุมนักแสดงในฉากนั้น

ข้อที่แปด : คีอานู รีฟส์ และ แคร์รี่-แอน มอส ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการเตรียมตัวแสดงฉากผาดโผนบนตึกที่มีความสูงกว่า 43 ชั้นก่อนถ่ายทำ ภายใต้การฝึกซ้อมร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยมีการขึงลวดสูงจากพื้นดิน 9 ฟีต เพื่อให้พวกเขาคุ้นชินกับการเคลื่อนไปพร้อมกับอุปกรณ์เหล่านี้ ก่อนที่จะค่อย ๆ เพื่อระดับความสูงไปที่ 30 ฟีต และ 50 ฟีตตามลำดับ

ข้อที่เก้า : สก็อตต์ โรเจอร์ส ผู้รับหน้าที่ดูแลด้านงานสตั้นฯ ภายในเรื่อง ซึ่งเขาคอยแสดงฉากผาดโผนเหล่านั้นเป็นตัวอย่างให้ทีมงานได้มั่นใจถึงความปลอดภัยอยู่เสมอ โดยมี เอลล่า แอน โรเจอร์ส ลูกสาวของเขาเป็นหนึ่งในทีมงานคนสำคัญ และรับหน้าที่ควบคุมดูแลฉากผาดโผนสำคัญบนตึกมีความสูงถึง 43 ชั้นอีกด้วย โรเจอร์ส ได้กล่าวว่า “เอลล่าอยากทำ เธออยากทดสอบทุกอย่างและอยากลองแสดงจริง เธอมีขนาดตัวเท่ากับแคร์รี่-แอน ซึ่งเป็นโอกาสที่จะบอกกับทุกคนได้ว่าผมมีความมั่นใจ 100% เลยครับ”

ข้อที่สิบ : ฉากต่อสู้ใน The Matrix Resurrections มุ่งเน้นไปที่กังฟูเหมือนเช่นที่เคยเกิดขึ้นในไตรภาคก่อน โดยมี โจนาธาน ยูเซบิโอะ เป็นผู้ออกแบบท่วงท่าในการต่อสู้ที่แฝงไปด้วยการเคลื่อนไหวอันคล่องแคล่วว่องไว้ของศิลปะการต่อสู้ของจีน

ข้อที่สิบเอ็ด : เจสสิก้า เฮนวิค อีกหนึ่งนักแสดงสาวมากฝีมือจาก Iron Fist และ Star Wars: Episode VII – The Force Awakens รับบทตัวละครแฮกเกอร์ที่มีชื่อว่า บั๊กส์ โดยก่อนที่การถ่ายทำจะเริ่มต้นขึ้น เธอเตรียมความพร้อมสำหรับบทนี้ด้วยการฝึกซ้อมร่างกายกว่า 1 ปี และฝึกท่วงท่าสำหรับฉากต่อสู้เพิ่มอีก 3 เดือนเลยทีเดียว

ข้อที่สิบสอง : ยาห์ย่า มาทีน-อับดุล ที่ 2 รับบทเป็น มอร์เฟียส หนึ่งในตัวละครไอคอนิกระดับตำนาน กับการกลับมาที่เต็มไปด้วยปริศนาลึกลับ โดยเขาเลือกใช้การคาร์ดิโอฝึกร่างกายให้มีความยืดหยุ่น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฉากการต่อสู้ที่ผสมผสานไปด้วยเทคนิกต่าง ๆ

ข้อที่สาม : สตูดิโอบาเบลส์เบิร์ก สถานที่ถ่ายทำ The Matrix Resurrections ในเบอร์ลิน ตั้งชื่อฉากที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาว่า “The Rainbow Stage” เพื่อให้เกียรติแด่สองพี่น้องวาโชว์สกี้, ลาน่า และ ลิลลี่ นั่นเอง

ข้อที่สี่ : ระหว่างการถ่ายทำที่เบอร์ลิน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ “Bill & Ted Face the Music (2020)” ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ คีอานู รีฟส์ กำลังเข้าฉายอยู่พอดี จึงได้มีการเหมารอบฉายสำหรับทีมงานและนักแสดงจาก The Matrix Resurrections เพื่อให้ทุกคนได้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้พร้อม ๆ กัน

ข้อที่สิบห้า : ลาน่า วาโชว์สกี้ ผู้กำกับ มือเขียนบท และผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้ชักชวนทีมงานจากซีรีส์เรื่อง “Sense8” ที่เธอกับ ลิลลี่ วาโชว์สกี้ น้องสาวเคยร่วมงานกัน รวมไปถึงนักแสดงหลายคน มาร่วมกันคืนชีพเรื่องราวของ The Matrix Resurrections ให้กลับมาโลดแล่นบนแผ่นฟิล์มอีกครั้ง

ดำดิ่งสู่โลกเสมือนจริง หวนคืนสู่เมทริกซ์อีกครั้ง พร้อมไขปริศนาลับเพื่อยุติสงครามแห่งโลกอนาคตครั้งใหม่ระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์และเหล่าจักรกลปัญญาประดิษฐ์ เลือกเม็ดยาที่ใช้แล้วออกไปเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริง ใน “The Matrix Resurrections เดอะ เมทริกซ์ เรเชอเร็คชั่นส์” 16 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

เครดิต : ข้อมูลและภาพประกอบจาก WarnerBros Thailand