เปิดตำนานบทใหม่ กับเรื่องเล่าขานของอัศวินที่โลกต้องจารึก ในมหากาพย์ภาพยนตร์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ “The Green Knight เดอะ กรีนไนท์ ศึกโค่นอัศวินอมตะ”  ผลงานการันตีความเยี่ยมจากค่าย A24 เรื่องราวความกล้าหาญของ เซอร์กาเวน หนึ่งในอัศวินโต๊ะกลม กับการเดินทาง และการผจญภัยในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ กับบททดสอบสำคัญแห่งอัศวิน หนึ่งเดียวที่หาญกล้าอาสารับคำท้าบั่นคอจาก อัศวินมรกต ผู้ลึกลับน่าเกรงขาม แม้เขาจะต้องใช้ความตายของตัวเองเป็นเดิมพันตามสัจจะที่ให้ไว้ เพื่อพิสูจน์ความน่าสนใจของภาพยนตร์คุณภาพเรื่องนี้ เราจึงขอเสนอ 9 ข้อที่การันตีความยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์ และนักวิจารณ์ทั่วโลก

1.จากผลงานบทกวีสุดคลาสสิกสู่การเรียบเรียงใหม่โดย เจ.อาร์.อาร์ โทลเคียน นักเขียนระดับตำนานจาก The Lord of the Rings

จากบทกวีอันทรงคุณค่า Sir Gawain and the Green Knight ในศตวรรษที่ 14 ได้รับการแปล และเรียบเรียงใหม่ ในปี 1925 โดย เจ.อาร์.อาร์ โทลเคียน (เจ้าของผลงานภาพยนตร์สุดโด่งดัง The Lord of the Rings) ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของนัยยะ และปริศนาที่สามารถตีความได้หลากหลาย แตกต่างจากตำนานกษัตริย์อาเธอร์ และอัศวินโต๊ะกลมเรื่องอื่นๆนำมาสู่การตีความรูปแบบใหม่ในมหากาพย์ภาพยนตร์ผจญภัย-แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ “The Green Knight เดอะ กรีนไนท์ ศึกโค่นอัศวินอมตะ”

2. เดฟ พาเทล นำทีมนักแสดงคุณภาพ ร่วมถ่ายทอดการแสดงอันทรงพลัง

เดฟ พาเทล (Slumdog Millionaire, Lion) อัศวินผู้กล้าในตำนาน “เซอร์กาเวน” หลานชายกษัติรย์อาเธอร์ หนึ่งเดียวที่อาจหาญรับคำท้าแห่งความตาย , โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน (The King, It Comes At Night, The Great Gatsby) การกลับมาสานต่อตำนานในบทบาทใหม่ “ท่านลอร์ด”, อลิเซีย วิกันเดอร์ (The Danish Girl, Tomb Raider) กับสองบทบาท เดอะเลดี้ ภรรยาท่านลอร์ด และ อีเซลหญิงสาวผู้มีบทบาทสำคัญกับเซอร์กาเวน, ซาริตา ชาวด์ฮิวรี (Modern Love) รับบท แม่ของเซอร์กาเวน ตัวแทนของ มอร์แกน เล เฟ ตามบทกวีดัังเดิม และ ฌอน แฮร์ริส (Mission: Impossible-Fallout) ผู้รับบท กษัตริย์อาเธอร์แห่งคาเมลอต

3. ตีความใหม่โดย เดวิด โลเวอรี ผู้กำกับหนังที่โลกต้องจับตามอง

หลังสร้างชื่อจากผลงานแจ้งเกิดปี 2013 กับ Aint Them Bodies Saints, ปี 2016 กับภาพยนตร์รีเมก Petes Dragon และในปี 2017 กับ A Ghost Story ผลงานที่ได้คำวิจารณ์ด้านบวกอย่างล้นหลามจากสื่อและนักวิจารณ์ ก็ทำให้ชื่อของเดวิดจัดอยู่ในทำเนียบผู้กำกับที่น่าจับตามอง และในปี 2021 เขาก็เลือกที่จะหยิบตำนาน The Green Knight ที่ไม่มีวันตาย พร้อมโจทย์ “คุณจะทำอย่างไรให้เกมล่าหัวในยุคกลางเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับคนยุคนี้

4.ผลงานภาพยนตร์แฟนตาซีพีเรียดฟอร์มยักษ์เรื่องแรกจากบริษัทผู้สร้างหนังยอดเยี่ยมการันตีคุณภาพ A24

A24 ถือเป็นค่ายหนังคุณภาพมาแรง ที่มักมีเอกลักษณ์ในผลงานภาพยนตร์ของตัวเอง การันตีด้วยความสนุก และรางวัลใหญ่ๆของแต่ละสถาบันมาแล้วมากมาย ได้รับการยอมรับ และพูดถึงจากผู้ชม รวมถึงนักวิจารณ์ทั่วโลก ถึงการคัดเลือก นำเสนอผลงานได้อย่างพิถีพิถัน เฉียบคม แปลกใหม่ และลงตัวเสมอ ไม่ว่าจะเป็น Moonlight, The Lobster, Lady Bird, Hereditary, The Lighthouse และ Midsommar ล่าสุดกับการเลือก “The Green Knight” ตำนานอัศวินผู้กล้า เซอร์กาเวน มาสร้างเป็นภาพยนตร์มหากาพย์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์เรื่องแรกของค่าย แน่นอนว่าย่อมมีสไตล์การนำเสนอที่คงความสมบูรณ์ และแตกต่างจากหนังเรื่องอื่นๆอย่างแน่นอน

5. สถานที่ถ่ายทำสุดอลังการ เต็มไปด้วยมนต์ขลัง  

ทีมงานเลือกเขตเคาท์ตี้ วิกโลว์ ในไอร์แลนด์ ซึ่งมีทุกอย่างใกล้เคียงกับศตวรรษที่ 14 ทั้งสภาพอากาศอันหนาวเย็น ทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยสีเทาซีดโดยเฉพาะที่ตั้งปราสาทโบราณ และบัลลังก์ของกษัตริย์อาเธอร์ แห่งคาเมล็อต ทีมงานเลือกใช้ปราสาทคาเฮีย ที่เต็มไปด้วยสีเทา ใน เคาท์ตี้ ทิปเปอรารี มันคือป้อมปราการหินที่สร้างในปี 1142 โดย คอเนอร์ โอ’ไบรอัน เจ้าชายแห่งโธมอร์ด ซึ่งเคยเป็นฉากหลังให้ Excalibur และ Barry Lyndon มาแล้วซึ่งคงเสน่ห์ และมนต์ขลังอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้ผู้ชมได้รับรู้ถึงบรรยากาศในภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี

6. การแต่งกายที่สร้างมุมมองใหม่ให้กับอัศวินโต๊ะกลม

นี่คือโอกาสที่พลาดไม่ได้ ในการพลิกโฉมมหากาพย์แฟนตาซียุคกลางที่เคยดูมา นอกจากความสวยงามของฉากที่ยิ่งใหญ่แล้ว ความวิจิตรของเครื่องแต่งกายในยุคกลาง ที่ได้ผู้ออกแบบมากฝีมือ ซึjงเคยร่วมงานกับเดวิด ผู้กำกับมาแล้วจาก Ain t Them Bodies Saints มาดีไซน์และสร้างสรรค์ชุดต่างๆเพื่อให้เข้ากับตัวละคร โดยต้องค้นคว้าเข้าถึงแนวคิด และเรื่องราวหลากมิติของภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นชุดของ เดฟ พาเทล, โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน, อลิเซีย วิกันเดอร์, ฌอน แฮร์ริส ที่ต้องเหมาะสมกับบุคลิก ฐานะ และความยิ่งใหญ่ หรือแม้แต่แม่มดที่สวมชุดคลุม ซึ่งสามารถสื่อสารผ่านเสื้อผ้า และโทนสีได้ โดยเฉพาะชุดที่โดดเด่นมากที่สุดชุดหนึ่ง คือเสื้อคลุมสีเหลืองที่เซอร์กาเวนสวมในขณะที่ออกเดินทาง

7. วิชวลจัดเต็ม อลังการความยิ่งใหญ่โดยทีมสร้างมือหนึ่งของฮอลลีวูด

เพื่อความตื่นตาตื่นใจ และสมจริงภาพยนตร์ The Green Knight ได้ยกระดับงานด้านเทคนิคพิเศษจากฝีมือ Weta Digital ของปีเตอร์ แจ็กสัน ที่เขาได้ก่อตั้งเพื่อใช้ทำงานตั้งแต่เรื่อง Heavenly Creatures ก่อนบริษัทนี้จะดังคับโลกจากแฟรนไชส์ The Lord of the Rings ในการสร้างเทคนิคดิจิตอลให้งานด้านภาพออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่แต้มสีเบสิก ไปจนซีจีไอล้ำยุค อย่างเช่นการเนรมิต จิ้งจอกพูดได้ ซึ่งเป็นคู่หูของกาเวนตลอดการเดินทาง คนที่มอบชีวิตให้เจ้าจิ้งจอก คือคนเดียวกับที่เคยสร้างเอลเลียตใน Petes Dragon

8. ภาพยนตร์เอพิคแฟนตาซีแห่งปี หนึ่งสัจจะสู่บททดสอบขอองอัศวินผู้กล้า

นี่คือภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี ที่จะพาผู้ชมร่วมผจญภัยไปในดินแดนที่เต็มไปด้วยเวทย์มนต์ เพื่อพิสูจน์ความกล้าหาญของ เซอร์กาเวน อัศวินแห่งกษัตริย์อาเธอร์ กับบททดสอบคำท้าเดิมพันด้วยชีวิต จากอัศวินมรกตผู้น่าเกรงขาม การเดินทางที่จะเปลี่ยนชีวิตอัศวินหนุ่มไปตลอดกาล เมื่ออุปสรรคสุดอันตรายรอเขาอยู่ตรงหน้าทั้ง วิญญาณอาฆาต, ยักษ์ และโจร เพื่อสัจจะ และศักดิ์ศรีของอัศวิน

9. คำวิจารณ์ยอดเยี่ยม และรีวิวสุดปังไม่ควรพลาดชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

การันตีความยอดเยี่ยมด้วยคะแนน คำวิจารณ์จากคนดังในฮอลลีวูด และสื่อชั้นนำทั่วโลก ที่ต่างเทใจให้ The Green knight เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีที่ดีที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทั้งการนำเสนอเรื่องราวอันแปลกใหม่ ทีมนักแสดงคุณภาพที่ถ่ายทอดบทบาทได้อย่างลึกซึ้ง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมในโรงภาพยนตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบนี่คือรีวิวส่วนนึงจากผู้ที่ได้ชม

“หนึ่งในหนังที่ดีที่สุดในปี 2021” - New York Time

“ทลายกรอบหนังแฟนตาซีเอพิค” - Time Magazine

“ควรค่าแก่การชมบนจอใหญ่เท่านั้น” - VOGUE

“ตราตรึงผู้ชมไปอีกนานแสนนาน” - Indiewire

“เป็นหนึ่งในหนังที่บีบหัวใจ และตื่นตะลึงมากที่สุดเท่าที่เคยดูมา” - พอล วอเตอร์ ฮอเซอร์ จาก Cruella

“เป็นการผจญภัยของชาวอาเธอร์ที่งดงาม และหรูหราในแง่โปรดักชัน” - เอ็ดการ์ ไรท์ ผู้กำกับ Baby Driver

เตรียมพบกับการผจญภัยสุดแฟนตาซี เปลี่ยนเรื่องราวที่ไม่เคยเล่าขาน สู่ตำนานภาพยนตร์ที่โลกต้องจารึก “The Green Knight ศึกโค่นอัศวินอมตะ” 11 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์