เล่าเรื่องจากรสชาติของ 3 ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ผ่านเมนูเดลิเวอรีในโปรเจกต์ #ช่วยเชฟSaveร้าน

เล่าเรื่องจากรสชาติของ 3 ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ผ่านเมนูเดลิเวอรีในโปรเจกต์ #ช่วยเชฟSaveร้าน

เล่าเรื่องจากรสชาติของ ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ที่พร้อมเสิร์ฟความคุ้มค่าผ่านเมนูเดลิเวอรีในโปรเจกต์ #ช่วยเชฟSaveร้าน จาก Wongnai x Chef Cares

    รสสัมผัสที่ละมุนลิ้น วัตถุดิบชั้นยอด หรือแม้แต่ประสบการณ์การทานอาหารที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความประณีต และสร้างสรรค์ของเชฟเพื่อให้เหล่านักทานได้สัมผัสประสบการณ์ชั้นเลิศในแบบฉบับของแต่ละร้านอาหาร หากพูดถึงประสบการณ์เหล่านี้ คงไม่พ้นการพูดถึง “ไฟน์ไดนิ่ง”ที่สร้างความประทับใจให้เหล่านักทานมามากมาย ซึ่งในสถานการณ์โควิด-19ที่เกิดขึ้น ทำให้ร้านต้องปรับตัว เปลี่ยนรูปแบบการเสิร์ฟอาหารให้เหมาะสมกับสถานการณ์ วันนี้เราจึงจะมาเล่าเรื่องของร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งจากโปรเจกต์ #ช่วยเชฟSaveร้านใน Wongnai x Chef Cares ความท้าทายครั้งใหม่ที่สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ หรือรูปแบบการปรับตัวของเหล่าเชฟ ที่ยังคงจิตวิญญาณแห่งไฟน์ไดนิ่งไว้ได้ทุกกระเบียด แม้จะเปลี่ยนมาเสิร์ฟความละเมียดของเมนูในรูปแบบเดลิเวอรี

Gaa:อาหารอินเดียสไตล์โมเดิร์น ที่นำเสนอมุมมองที่แตกต่างผ่านการผสมผสานความเป็นไทย

   ขาแกะชิ้นใหญ่ที่ผ่านการตุ๋นมากถึง 8ชั่วโมง ให้รสสัมผัสเนื้อนุ่มละลายในปากแบบ Fall off the bone เสิร์ฟพร้อมกับแป้งโรตีเนื้อนุ่มและซอสเครื่องเคียงสูตรเด็ดของร้านที่ผ่านกรรมวิธีการทำเองในทุกขั้นตอนเพื่อให้สามารถ

   ควบคุมรสชาติ และสามารถนำเสนอออกมาได้อย่างหลากหลายสไตล์ เซตขาแกะนุ่มชุ่มซอสพร้อมแป้งโรตีนุ่มช่วยเรียกน้ำย่อย และความอยากอาหารของเหล่านักทานได้หลายต่อหลายคน เชฟGarima Aroraเชฟและเจ้าของร้านอาหารโมเดิร์นอินเดียน ร้าน Gaa และ HERE เล่าให้ฟังว่า “ความท้าทายของไฟน์ไดนิ่งในสถานการณ์โควิด-19 คือ ประสบการณ์ของแขกที่เราจะไม่สามารถดูแลเขาได้เหมือนกับการมานั่งทานที่ร้าน ดังนั้นเมนูที่เชฟเลือกมานำเสนอให้กับนักทานในดีลนี้จึงเป็นเมนูที่เชฟคิดว่าจะสามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีในพื้นที่บ้าน

   ของลูกค้า และ เป็นเมนูที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง”ไม่เพียงเท่านั้น ร้าน Gaa ยังมีเมนูยอดฮิตอื่นๆ อาทิ แผ่นนมย่างสอดไส้เนื้อวากิวเลิศรสราดซอสสมุนไพรและยีสต์มาโย และ ไข่หอยเม่นสดเสิร์ฟบนขนมปังบริโอชกรอบและซอสพริกเขียว“สำหรับเมนูไข่หอยเม่นสด รสสัมผัสของเมนูนี้จะมีทั้งรสเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด กรอบ ร้อน ซึ่งเมนูนี้จะเป็นเมนูที่ถ่ายทอดถึงประสบการณ์การทานอาหารแบบสตรีทฟู้ดของอินเดียได้ดีทีเดียว”

   “Perception ของคนทั่วไปอาจมองว่าอาหารอินเดียเป็นอะไรที่หนัก เครื่องเทศเยอะ แต่สำหรับ Gaa เราคือโมเดิร์นอินเดียนที่ผสมผสานระหว่างวัตถุดิบไทย และเทคนิคการทำอาหาร แบบดั้งเดิมของอินเดีย นำเสนอออกมาในรสชาติที่แปลกใหม่และอยากให้ทุกคนได้ลอง”

Cocolombo: เสิร์ฟความหลากหลายสไตล์ศรีลังกาผ่านภาชนะในรูปแบบใบตอง

   แพะเนื้อนุ่มไร้กระดูก พร้อมเครื่องแกงที่เข้มข้นไปด้วยเครื่องเทศ ตะไคร้ หัวหอม มะเขือเทศที่ถูกผัดด้วยไฟอ่อนถึง 2ชั่วโมง เพื่อให้ได้รสชาติที่นุ่มลิ้น ถูกเสิร์ฟพร้อมกับดาลมะพร้าวหนึ่งในส่วนประกอบหลักของอาหารศรีลังกา พร้อมด้วยซัมบาล แผ่นโรตีศรีลังกา และกล้วยทอดคาราเมล ในเมนู ข้าวหมกแพะสไตล์ศรีลังกา พร้อมดาลมะพร้าว ซัมบาล และกล้วยทอดคาราเมล จากคลาวด์คิชเช่นสไตล์ไฟน์ไดนิ่ง Cocolombo ที่เกิดขึ้นมาในช่วงสถานการณ์

   โควิด-19 เมื่อร้าน Ministry of Crab ซึ่งเป็นร้านที่เปิดขายในสถานการณ์ปกติ มีความยากในการเตรียมวัตถุดิบเมื่อสถานการณ์มีความไม่แน่นอน“หลายคนอาจเข้าใจว่าอาหารศรีลังกาและอินเดียเหมือนกันแต่จริงๆ แล้ว มันมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างกันออกไป สำหรับอาหารศรีลังกาของเราจะเน้นการใช้น้ำมันมะพร้าวสำหรับการผัด และใช้กะทิเพื่อทำให้เครื่องแกงมีความเข้มข้นมากขึ้น ในขณะเดียวกัน เนื้อกะทิจะถูกนำมาขูดเพื่อเป็นส่วนประกอบของซัมบาลซึ่งเป็นหนึ่งในเซ็ตอาหารนี้ และที่สำคัญรสชาติที่อร่อยตามแบบฉบับศรีลังกา คือการเสิร์ฟด้วยใบตอง”เชฟ Harsha Madhuranga, Executive Chef กล่าว นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนูให้เลือกอีก 2เมนูในดีลไม่ว่าจะเป็น ข้าวหมกปลาคิงส์แมกคอเรล สลัดขนุน ซัมบาล และกล้วยทอดคาราเมลหรือเมนูเอาใจสายมังสวิรัติอย่าง ข้าวหมกมะม่วง พร้อมดาลมะพร้าว ซัมบาล สลัดขนุน และกล้วยทอดคาราเมล ที่สายมังสวิรัติยังสามารถเลือกได้ระหว่างมะม่วง มันฝรั่ง หรือขนุน อีกด้วย

    “อยากให้ทุกคนมาลองรสชาติของอาหารศรีลังกาที่มีความเฉพาะตัว ที่สำคัญ Cocolombo เราจะเน้นเรื่องการรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านการใช้ sustainable packaging ที่ผลิตภัณฑ์ของเราทั้งหมดจะเป็นใบตอง และกระดาษ สร้างประสบการณ์การเสิร์ฟอาหารที่แปลกใหม่ให้กับเหล่านักทาน”

Caper by Dan Bark: ความหรูหราภายใต้เอกลักษณ์ของความเป็น Modern American

    สัมผัสกรอบของผักคอสที่มาพร้อมไวท์แอนโชวี่ หนึ่งในเมนูซีซาร์สลัด พร้อมขนมปังบริยอชทรัฟเฟิล ท็อปด้วยทรัฟเฟิลชีส พาร์เมซานชีส ที่ถูกจัดมาในเซ็ท ขนมปังบริยอชทรัฟเฟิล ซีซาร์สลัด พร้อมกับอาหารจานหลักที่สามารถเลือกสั่งเพิ่มได้ไม่ว่าจะเป็นอกเป็ดรมควัน หรือพอร์กชอปอาจทำให้หลายคนหลงรักไปกับอาหารสไตล์ Comfort Modern American จากเชฟมิชลินสตาร์อย่างเชฟแดน บาร์ก ที่รังสรรค์เมนูอาหารมาให้เหล่านักชิมได้ลิ้มรสกันถึงที่บ้าน แต่ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในร้านสไลต์แกสบี้ (Gatsby) อย่าง Caper คุณเฟย์ธัญจิรา ตระกูลวงษ์ เจ้าของร้าน Caper by Dan Barkและ Cadence Restaurant by Dan Bark เล่าว่า “สำหรับเมนูที่ทางร้านเลือกมาจะเป็น signature ที่ลูกค้าหลายท่าน เมื่อไปถึงร้านเราแล้วมักจะต้องสั่งมาทานซึ่งเราได้รวมไว้ทั้ง snack, appetizer และ main course เพื่อให้ลูกค้าสามารถสั่งเป็นชุดได้เลย”และนอกจากนี้สำหรับใครที่เป็นสาวกอกเป็ดรมควันและ พอร์กชอปของ Caper ต้องห้ามพลาดเพราะดีลนี้อาจเป็นโอกาสสุดท้ายเนื่องจากทางร้านจะมีการนำเมนูใหม่เข้ามาแทนที่แล้ว

    “สำหรับโปรเจกต์ #ช่วยเชฟSaveร้าน เป็นโปรเจกต์ที่เชฟทุกท่านและร้านอาหารตั้งใจทำขึ้นมา ผ่านการวางแผนเพื่อที่จะสร้างความสะดวกและความประทับใจให้นักทานที่สั่งดีลไปทานที่บ้านให้มากที่สุด อยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมอุดหนุนทุกร้านอาหารในโปรเจกต์นี้กัน”

    Wongnai x Chef Care ในโปรเจกต์ #ช่วยเชฟSaveร้าน ได้รวบรวมร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งกว่า 16ร้าน ไม่ว่าจะเป็น Fat Lamb, Sushi Zo, 99 Chicken Pot, Gaa, Caper by Dan Bark, Cocolombo, อยากทำแต่ไม่อยากกิน, Savelberg และอื่นๆ อีกมากมาย มาเสิร์ฟเมนูสุดคุ้มในราคาเพียง 599 และ 999 บาทเท่านั้น โดยเหล่านักทานสามารถ ซื้อดีลกันได้แล้วตั้งแต่วันนี้ - 31กรกฎาคม 2564 ผ่านแอปฯ Wongnai หรือคลิก https://www.wongnai.com/evouchers?domain=1&tags=Chefcares&ref=home

เล่าเรื่องจากรสชาติของ 3 ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง ที่พร้อมเสิร์ฟความคุ้มค่าผ่านเมนูเดลิเวอรีในโปรเจกต์ #ช่วยเชฟSaveร้าน จาก Wongnai x Chef Cares