สัพเพเฮฮาประสาตำรวจ ตอน ยาสตรี

สัพเพเฮฮาประสาตำรวจ ตอน ยาสตรี

สัพเพเฮฮาประสาตำรวจ ตอน ยาสตรี 

ในวาระที่พืชบางชนิดกำลังจะถูกถอดออกจากการขึ้นทะเบียนเป็นสารเสพติด มาในฉบับนี้ขอเขียนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับยาเสพติดประเภท 5 เหล่านี้เสียหน่อย ยาเพสติดตามพระราชบัญญิติยาเสพติดของประเทศไทยนั้น แบ่งออกเป็น 5 ชนิด นั่นก็คือ

ประเภท1 ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง เช่น เฮโรอีน, แอมเฟตามีน ,แมทแอมเฟตามีน, เอ็กซ์ตาซี และแอลเอสดี

ประเภท 2 ยาเสพติดให้โทษทั่วไป เช่น มอร์ฟีน, โคคาอีน, โคเดอีน และฝิ่นยา

ประเภท 3 ยาเสพติดให้โทษที่มีลักษณะเป็นตำรับยา และมียาเสพติดให้โทษในประเภท 2 ผสมอยู่ด้วย คือ ยารักษาโรคที่มียาเสพติด ประเภท 2 เป็นส่วนประกอบอยู่ในสูตร เช่น ยาแก้ไอ ยาแก้ท้องเสีย

ประเภท 4 สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือประเภท 2 เช่น อาเซติคแอนไฮไดรด์ และอาเซติลคลอไรด์

และสุดท้าย ประเภท 5 ยาเสพติดให้โทษที่มิได้เข้าอยู่ในประเภท 1 ถึงประเภท 4 เช่น กัญชา พืชกระท่อม

สมัยทำงานอยู่เป็น สารวัตรป้องกันและปราบปรามในโรงพักภูธรนี่จับสนุกเลยครับ เพราะในทุกๆวันที่เข้าเวรจะมีรับแจ้งอยู่ตลอดว่า มีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มต้มน้ำกระท่อมส่งเสียงดัง เมื่อได้รับแจ้งและไปถึงที่เกิดเหตุจุดรวมตัวของกลุ่มวัยรุ่น ก็เหมือนผึ้งแตกรังไม่พ้นการแตกฮือวิ่งหนีตำรวจ บางคนวิ่งตามจับได้ก็อ้างว่ามาซื้อก๋วยเตี๋ยวให้แม่บ้าง บอกว่าเพิ่งมาบ้าง ทั้งที่เจ้าหน้าที่มีคลิปทั้งแต่ก่อนจับกุมและขณะเข้าจับกุมทั้งหมด เห็นชัดเจนว่านั่งอยู่เป็นเวลานานจิบน้ำกระท่อมคุยเฮฮาส่งเสียงดังคึกคะนองไม่สนหินแดดหรือสี่แปดใดๆเลย พอจับได้ก็อ้างตัวต่างๆนาๆเพื่อให้พ้นความผิดไปก็เท่านั้น พอกางหลักฐานก็หน้าจ๋อยกันไปเป็นแถบๆ

ของกลางที่พบก็จะมีตั้งแต่ หม้อต้ม ใบกระท่อม น้ำกระท่อม ในบางครั้งก็มียาทรามาดอล หรือที่วัยรุ่นเรียกกันว่า ยาโปร มาเคี้ยวคู่กับน้ำชามะนาว  ซึ่งหากปล่อยปละละเลยไปเรื่อยๆ ความอยากรู้อยากลองพวกมากลากจูง เด็กวัยรุ่นเหล่านี้จะยิ่งถลำเข้าไปในวังวนยาเสพติดอย่างอื่นที่เลวร้ายยิ่งกว่า การจับกุม ป้องปราม ตักเตือน จึงเป็นทางออกอย่างหนึ่งที่ดีที่สุดแต่ร้อยทั้งร้อยในกรณีของน้ำกระท่อมนั้น ผู้กระทำความผิดส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้เยาว์อายุยังไม่ถึง 18 ทางที่ดีที่สุดคือการภาคทัณฑ์ เรียกผู้ปกครองของเด็กมารับทราบการกระทำความผิด ว่ากล่าวตักเตือน และทำการบันทึกประวัติเก็บไว้ที่สถานีตำรวจ เพื่อเป็นการบันทึกหากมีการพบการกระทำความผิดครั้งหน้า หรือครั้งอื่นๆจากนั้นก็จะมีการดำเนินคดี หลักการปฎิบัติก็จะเป็นเช่นนี้ ซึ่งเป็นการปฎิบัติชนิดเบาไปหาหนัก เพื่อให้มีทางออกให้กับทุกฝ่าย เพราะประเทศไทยเองนั้น ก็เป็นอีกประเทศในเรื่องของการให้โอกาสคน เน้นแก้ไขไม่แก้แค้น นั่นเอง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต่อให้ตำรวจปฎิบัติการขั้นเบาไปหาหนักขนาดนี้แล้ว เด็กเองก็ยอมรับความผิดแล้ว ปัญหาก็ยังไม่จบสักทีเพราะผู้ปกครองนี่แหละครับ ขึ้นชื่อว่าพ่อแม่ บางทีก็ไม่ใช่รักลูกเข้าข้างลูกอย่างเดียว บางครั้งมันกลายเป็นเรื่องหน้าตาศักดิ์ศรีที่ยอมไม่ได้ รู้ว่าลูกผิด แต่ก็กล่าวอ้างตามวลีเด็ด “ลูกฉันเป็นคนดี” ไม่มีทางทำอย่างนั้น โดนเพื่อนชวนมา พาให้เสีย บลา บลา บลา .

เหตุการณ์หนึ่งที่ผมเคยเจอ คือเจอผู้ปกครองท่านหนึ่ง ซึ่งจะเรียกป้าก็ไม่ถูกอายุเพราะอายุประมาณ 40 กว่าๆ แก่กว่าผมไม่กี่ปี แกออกมาโวยวายวายเรื่องที่ตำรวจควบคุมตัวลูกของแกจากเหตุมั่วสุมน้ำกระท่อม ลูกอ้างว่าออกมาซื้อก๋วยเตี๋ยวตอนตีสอง แกก็ยันว่าแกเป็นคนใช้ให้มาซื้อก๋วยเตี๋ยว ลูกถูกจับมั่วสุมเสพน้ำกระท่อมก็อ้างว่าลูกถูกเพื่อนบังคับชักจูง ลูกแกไม่ใช่คนอย่างนั้น อยู่บ้านเป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่ ยาเสพติดไม่เคยยุ่ง จะมาทำประวัติอะไรลูกฉันก็ไม่ยอม สุดท้ายต้องเปิดภาพเคลื่อนไหวที่ถ่ายขณะจับกลุ่มเสพ รวมไปถึงต้องขู่ดำเนินคดีอย่างจริงจังถึงจะยอมอ่อนลงแต่โดยดี

ผมจำเรื่องนี้ได้อย่างแม่นยำครับ ว่าในคืนนั้นวุ่นวายขนาดใหน ตำรวจเราเหนื่อยและปวดหัวขนาดใหน บางครั้งการเป็น Law Enforcement ก็ไม่สามารถปฎิบัติหน้าที่โดยง่ายเสมอไป การปปฎิบัติโดยตรงไปตรงมานั้นมันง่าย แต่ถ้าเอาหลักเมตตา หรือเอาหลักมนุษยธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องในการปฎิบัติหน้าที่ กาปฎิบัติบังคับใช้กฎหมาย จะกลายเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจไปในทันที

ผ่านไปประมาณหนึ่งอาทิตย์ ขณะเข้าเวรอยู่นั้นได้มีโชเฟอร์รถเมล์คันหนึ่ง ร้องขอความช่วยเหลือ ว่ามีผู้โดยสารหญิงวัยกลางคนรายหนึ่งกำลังอาละวาดอยู่บนรถอยากให้ตำรวจมาช่วยควบคุมตัวหน่อย พอไปถึงนี่ตกใจแทบช้อค ผู้หญิงคนดังกล่าวนั่นก็คือแม่ของเด็กที่เพิ่งมาอาละวาดที่โรงพักเมื่อสัปดาห์ก่อน ต้นสายปลายเหตุ คือแกดื่มยาสตรีแบบน้ำยี่ห้อหนึ่งเข้าไป ปกติยานี้ต้องค่อยๆจิบ แต่แม่คุณกระดกทีเดียวหมดขวด ของขึ้น ตัวร้อน เมาสิครับ...!!!! เมาไม่เมาเปล่า เอาขวดมาเคาะกระจกหน้าต่าง โป๊กๆๆ จนโชเฟอร์ทนไม่ไหว ต้องร้องขอตำรวจให้ช่วยเอาตัวลงจากรถ จะเดินลงมาก็ไม่ไหวอี๊กกกก ต้องช่วยหิ้วปีกพยุงลงมานั่งพักที่หลังป้อมตำรวจ สักพักพอมีแรง ไปยืนแอ่นฉี่ เป็นผู้ชายซะงั้น....โอ๊ยยยย วันนี้มันวันอะไรวะเนี่ย สักพักติดต่อญาติมารับตัวได้ จึงได้รู้ความว่าแม่คนนี้แกจิบยาน้ำชนิดนนี้เป็นประจำ จิบจนเหมือนคนติดยา จิบจนเมาเป็นนิสัย และมักจะมีพฤติกรรมโวยวายอาละวาดอย่างนี้เป็นประจำ โอเคครับ ผมสบายใจแล้ว ลูกไม่หล่นไม่ใกลต้น แม่ลูกหมือนกันจริงๆ

ปล.  โปรดระวังการบริโภคยาสตรีแบบน้ำนะครับ จิบแต่พอดี กินเยอะๆเมาง่ายนะเธอ

โปรดระวังการบริโภคยาสตรีแบบน้ำนะครับ จิบแต่พอดี กินเยอะ ๆ เมาง่ายนะเธอ