คุยกับ "สตีเว่น ยอน" กับการบทบาทแห่งชีวิตใน "Minari มินาริ"

คุยกับ "สตีเว่น ยอน" กับการบทบาทแห่งชีวิตใน "Minari มินาริ"

 

จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของผู้กำกับ อี ไอแซค จอง สู่ภาพยนตร์ดราม่าน้ำดีที่เรียกเสียงฮือฮามาแล้วในวงการภาพยนตร์ทั่วโลก จนกลายเป็นตัวเต็งขึ้นแท่น ภาพยนตร์ห้ามพลาดแห่งปี! สำหรับ "Minari มินาริ" การันตีคุณภาพด้วยการเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีระดับโลกอย่างออสการ์ แถมนักแสดงนำของเรื่องอย่าง สตีเว่นยอน (Walking Dead, Burning และ OKJA) ยังสร้างประวัติศาสตร์โดยการเป็น นักแสดงเชื้อสายเอเชียน-อเมริกัน คนแรกที่ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม

สมทบคุณภาพด้วยทีมนักแสดงอย่าง ฮันเยริ (Hello, My Twenties!, Love Guide for Dumpees และ As One) และ ยุนยอจอง (The Housemaid, Keys To The Heart) มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวเชื้อสายเกาหลีที่พร้อมเดิมพันทุกอย่างเพื่ออนาคตที่ดีขึ้นของพวกเขา แบกความฝันที่หวังว่าจะทำให้สำเร็จมาตั้งรกรากบนสหรัฐอเมริกา ผ่านเหตุการณ์และอุปสรรคที่จะทำให้ทุกคนประทับใจและอิ่มเอมไปด้วยความอบอุ่น

ก่อนที่จะได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงชายคนล่าสุดที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ สตีเว่น ยอน เกิดในเกาหลีใต้ แต่โตมาในเมืองทรอย รัฐมิชิแกน ครอบครัวของยอนย้ายมาจากโซล พ่อของเขาเป็นสถาปนิกในบริษัทชั้นนำของเกาหลี เขาย้ายมาที่ เทย์เลอร์, มิชิแกน ตอนอายุสี่ขวบ บ้านใหม่ของยอนอยู่ในย่านชนชั้นกลาง เป็นเรือนกระจกหลังร้านขายของชำของลุง งานแรกของพ่อและแม่ของยอนในอเมริกาคือแพคตะเกียบใส่ซองกระดาษ

“ตอนที่พ่อผมเพิ่งย้ายมาเขาดูหัวเสียมากผมจำได้เขาพูดว่าที่เขาโมโหเพราะเขาเพิ่งคิดได้ว่าเขายอมทิ้งอนาคตที่สดใสเพื่อมาเริ่มใหม่จากศูนย์ที่นี่ในตอนเด็กผมยังปรับตัวเขากับสภาพแวดล้อมสไตล์อเมริกันไม่ค่อยได้จึงฆ่าเวลาไปกับการไล่สะสมการ์ดเอ็กซ์เมน ที่มีบอกค่าพลังต่างๆ ตามตัวละคร ผมอยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นคุณสมบัติของคนเอเชียหรือเปล่า เราชอบอะไรที่เป็นแพทเทิร์น คาดเดาได้ อะไรที่เป็นตัวเลขเยอะๆ” สตีเว่น ยอน

สตีเว่น ยอน ย้ายมาที่แอลเอเมื่อปี 2009 เขาขับรถข้ามประเทศมาเพื่อหาโอกาสเทสหน้ากล้อง หลังจากนั้นห้าเดือนเขาคว้าบทที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล เมื่อเขาได้รับบท เกล็น ใน The Walking Dead ซึ่งช่วงหนึ่งเป็นซีรีย์ที่มีตัวเลขผู้ชมสูงสุดของอเมริกา การแสดงของเขาทำเกล็น คนส่งพิซซ่าเชื้อสายเกาหลี เป็นขวัญใจผู้ชม จนกระทั่งการตายของตัวละครนี้สะเทือนใจผู้ชมจนถึงขั้นช็อคไปเลยก็มี

ก่อนที่โปรเจคต์ Minariจะได้ไฟเขียว อี ไอแซค จอง ผู้กำกับส่งบทไปให้ สตีเว่น ยอน อ่าน ไม่กี่ปีก่อนหน้าเขาได้กลายมาเป็นน้องเขยของ อี ไอแซค จอง โดย สตีเว่น ยอน มีผลงานหลากหลาย นับตั้งแต่ซีรีย์ยอดฮิต “The Walking Dead” และภาพยนตร์ตลกผลงานของ บูตส์ ไรลีย์ ใน Sorry to Bother You ไปจนผลงานดราม่ากระชากใจของอีชางดงอย่าง Burning โดย อี ไอแซค จอง ทำลายมายาคติของคนเอเชียในฮอลลีวู้ด ทำให้ อี ไอแซค จอง รู้สึกว่าเขาสามารถเข้าใจตัวตนของ เจค็อบ ผู้เชี่ยวชาญการคัดเพศไก่ที่ฝันไกลกว่านั้น

“การรับบทเจค็อบน่าวิตกไม่น้อย แต่มันยิ่งทำให้บทนี้มีสเน่ห์มากยิ่งขึ้น ขั้นตอนการเตรียมตัวสำหรับรับบทนี้มันทั้งสาหัส, น่าประทับใจ, น่าวิตก แต่มันคุ้มค่า อย่างแรกเลยถึงผมพอจะพูดเกาหลีได้ แต่มันไม่ได้แปลว่าผมจะพูดคล่องปากเหมือนที่เจค็อบพูด ผมรู้ว่าผมต้องฝึกหนัก ที่ยากไปกว่านั้นคือการต้องเล่นเป็นพ่อคนในยุค 80 ด้วยความที่ตัวละครเป็นคนกลุ่มน้อยของสังคมยิ่งทำให้ผมรู้สึกต้องรับผิดชอบมากขึ้น ผมกังวลว่า ผมจะเล่นตัวละครนี้ออกมาสมจริงพอหรือเปล่า? ผมรู้จักพ่อผมจริงๆ หรือเปล่า? ผมเข้าใจสิ่งที่พ่อแม่ยุคนั้นต้องเจอพอหรือไม่?’ หลายคนยกย่องชาวเกาหลีรุ่นบุกเบิกที่เดินทางมาประเทศนี้ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการจะทำ ที่ผมต้องการคือการเจาะลึกถึงตัวตนของพวกเขา” สตีเว่น ยอน

“เราพยายามเล่าเรื่องให้ออกมาธรรมดาสามัญที่สุด ปราศจากมุมมองการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ผมไม่เคยตื่นมาแล้วคิดว่า ฉันเป็นคนเกาหลีอเมริกันพยายามใช้ชีวิตในอเมริกาที่คนขาวเป็นใหญ่ทุกเช้าเวลาผมตื่นผมคิดแค่ว่าจะกินอะไรดีนะเช้านี้ เมื่อเราละทิ้งองค์ประกอบพวกนั้น ความเป็นมนุษย์จึงปรากฏ มันคือเรื่องราวของคนเป็นพ่อ, แม่, ลูกชาย และคุณยาย มันเกี่ยวกับความยากลำบาก ความอดทนอดกลั้น ศรัทธาและความหวังที่จำเป็นต่อการเอาชนะอุปสรรค” สตีเว่น ยอน

สตีเว่น ยอน คิดว่าทางเดียวที่เขาจะเข้าถึงตัวละครนี้คือเขาต้องเป็นพ่อคนเสียก่อน ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้เขาคิดว่าตัวเองไม่มีทางเล่นบทนี้ออกมาได้ดี “ผมคิดว่าผมคงไม่มีทางเข้าใจพ่อแม่ผมจนกระทั่งผมมีลูกตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเจค็อบรู้สึกยังไง เป็นผู้ชายอายุสามสิบกว่าๆ มีลูกๆ ที่ต้องเลี้ยงดู แต่ยังเหลือไฟในตัวไว้ล่าฝันของตัวเอง”

การที่ Minari พลาดเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม แต่กลับมีชื่อเช้าชิงสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ทำให้เกิดการวิพากย์วิจารณ์และตั้งคำถามเกี่ยวกับดุลยพินิจของกรรมการเวทีนี้มากมาย “ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ ผมไม่มีอะไรจะฝากถึงคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยหรอกนะ เพราะผมคิดว่ากฏเกณฑ์หรือสถาบัน มันไม่สามารถ สะท้อนชีวิตจริงของเราได้ แต่หน้าหนังเรื่องนี้จุดให้เกิดการพูดคุยที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงได้ก็เจ๋งไปเลย”

สตีเว่น ยอน กล่าวถึงตัวละครที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงออสการ์สาขาดารานำชายยอดเยี่ยม “ผมคิดว่าตัวผมเองก็มีส่วนคล้ายเจค็อบเหมือนกันนะ ผมว่าสัตว์ประจำตัวของผม (สปิริต แอนิมอล) คืออูฐ ตรงที่มันพร้อมผจญภัยเสมอ มันไม่ใช่แค่แบกสัมภาระลุยพื้นที่ทุรกันดารให้คุณ แต่ยังแบกคุณไปพร้อมกันด้วย มันเป็นสัตว์ที่พึ่งตัวเองได้ และไม่ลังเลจะก้าวไปข้างหน้า เหมือนกับเจค็อบที่ไม่เคยหมดศรัทธาในสวนของเขา”

เตรียมพิสูจน์และสัมผัสความงดงามทางการแสดงเรื่องล่าสุดของ “สตีเว่น ยอน” พร้อมนักแสดงคุณภาพอีกมากมายที่จะหล่อหลอมหัวใจของคุณให้อบอุ่นและซึ้งใจไปกับภาพยนตร์คุณภาพที่คุณไม่ควรพลาดใน “Minari มินาริ” เปิดรอบพิเศษ 25 - 28 มีนาคมนี้ รอบ 1 ทุ่มเป็นต้นไป ฉายจริง 1 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

คุยกับ "สตีเว่น ยอน" จากเด็กส่งพิซซ่าฝ่าฝูงซอมบี้ สู่หัวหน้าครอบครัวที่พร้อมเดิมพันบนเส้นทางใหม่ กับการบทบาทแห่งชีวิตใน "Minari มินาริ" ภาพยนตร์ดราม่าเรื่องเยี่ยมซึ่งส่งให้เข้าชิงออสการ์สาขานักแสดงนำประจำปี 2021